ข่าวประชาสัมพันธ์ 1 - 15 มราคม 2565

ประชาสัมพันธ์ สำนักงานประสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี

โทรศัพท์/โทรสาร 038 - 279448  www.chonburipr.net

ระหว่างวันที่ 15 – 31 มกราคม 2565

****************************************************************

ชลบุรี แถลงผลการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565

          นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดชลบุรี ได้ปฏิบัติงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน และทางน้ำ ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ตลอดระยะเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 65 - 4 ม.ค. 2565 ภายใต้หัวข้อการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันของส่วนราชการในระดับจังหวัด อำเภอ และท้องถิ่น ฝ่ายปกครองในพื้นที่ จิตอาสา อาสาสมัครกลุ่มต่างๆ ตลอดจนภาคเอกชนที่ได้ร่วมกันรณรงค์ในครั้งนี้

       สำหรับการปฏิบัติการครั้งนี้ ได้เกิดอุบัติเหตุ จำนวน15 ครั้ง บาดเจ็บจำนวน 11 คน เสียชีวิตจำนวน 8 ราย และเมื่อเทียบกับเทศกาลปีใหม่ 2564 อุบัติเหตุได้ลดลงร้อยละ 46.42 ผู้ได้บาดเจ็บลดลงร้อยละ 38.88

และผู้เสียชีวิตลดลงร้อยละ 38.46 (สถิติปีใหม่ 2564 เกิดอุบัติเหตุ 28 ครั้ง บาดเจ็บ 18 คน เสียชีวิต 13 ราย) ส่วนทางน้ำมีการตั้งจุดตรวจทางน้ำ 4 จุด ได้แก่ ท่าเรือเกาะลอย ท่าเรือเกาะสีชัง ท่าเรือเกาะล้าน ท่าเรือพัทยาใต้ - บาลีฮาย มีการให้บริการทั้งสิ้น 505 เที่ยว มีผู้โดยสารจำนวนทั้งสิ้น 78,600 คน พบว่าในช่วงควบคุมเข้มข้น ไม่มีอุบัติเหตุแต่อย่างใด

        หลังจากช่วงควบคุมเข้มข้นสิ้นสุดลง จังหวัดชลบุรีจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อพิจารณาความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาล รวมถึงให้หน่วยงานหลักได้ร่วมกันถอดบทเรียนการดำเนินงานเพื่อใช้ประกอบในการกำหนดมาตรการให้การดำเนินงานป้องกันและลดุบัติเหตุทางถนนของจังหวัดชลบุรีให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้ได้มากที่สุด และเน้นย้ำดำเนินการเรื่องหมวกนิรภัยเป็นวาระจังหวัดต่อไป

ปริญญา/ข่าว

*********************************

ชลบุรี จัดกิจกรรมวิ่งมาราธอน “บางแสน42 ชลบุรี มาราธอน” BANGSAEN 42

       นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดชลบุรี ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี องค์กรภาคีเครือข่ายภาครัฐ ท้องถิ่น และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี กำหนดจักกิจกรรมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี ภายใต้โครงการวิ่งมาราธอน โดยใช้ชื้อว่า บางแสน42 ชลบุรี มาราธอน (BANGSAEN 42) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรี ผลักดันให้กิจกรรมกีฬาเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่ต้องสัมผัสในการท่องเที่ยวไทย ส่งเสริม สนับสนุนให้จังหวัดชลบุรีเป็นเมืองต้นแบบ “Sports Tourism” และประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวหรือนักวิ่งได้รู้จักแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดชลบุรีมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนระยะยาว และส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพชีวิตที่ดี ช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยเกิดความสุขในสังคม มีกิจกรรมนันทนาการเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว เสริมสร้างสุขภาพที่ดี ตลอดจนยังเป็นกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีศักยภาพในการจับจ่ายใช้สอย ให้เกิดกระแสการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดชลบุรี ส่งผลให้เกิดกระบวนการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในท้องถิ่น และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ สร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการแข่งขันได้อย่างยั่งยืนต่อไป

        สำหรับแข่งขันวิ่งมาราธอนครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้นวันที่ 20 มีนาคม 2565 โดยมีเส้นทางระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ซึ่งจุดปล่อยตัวที่ถนนเลียบชายหาดบางแสนสาย1 บริเวณหน้าศูนย์ประชุมโรงแรมบางแสนเฮอริเทจ – วงเวียนบางแสน – สะพานชลมารควิถี 84 พรรษา – ตลาดอ่างศิลา – ศาลเจ้านาจาไท่จื้อ – เขาสามมุก – แหลมแท่น – แนวชายหาด และเข้าสู่เส้นชัย ณ จุดปล่อยตัว

        ขอเชิญประชาชน ร่วมทั้งนักวิ่งที่ลงทะเบียนแล้ว ให้ไปรับเสื้อ พร้อมเบอร์ได้ในวันที่ 18 – 19 มีนาคม 2565 ณ บริเวณหน้าศูนย์ประชุมโรงแรมบางแสนเฮอริเทจ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กองการท่องเที่ยวและกีฬา ฝ่ายการท่องเที่ยว โทรศัพท์หมายเลข 038 – 398039 – 40 ต่อ 114

ปริญญา/ข่าว

********************************************

บริษัท ไปรษณีย์ ไทย จำกัด ออกแสตมป์ชุดปีใหม่ 2565 สีสันแห่งอาหารที่น่าสะสม

        นายณัฐพงษ์ จอมฟูหัวหน้าแผนกรับฝากส่วนการตลาดและการขาย ที่ทำการไปรษณีย์ศรีราชา เปิดเผยว่า ทางบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ออกแสตมป์ชุดใหม่ขึ้นมาต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขแสตมป์ชุดปีใหม่ 2565 ประกอบด้วยลวดลายของขนมหวานที่น่ารับประทาน สื่อให้เห็นถึงความสดใสที่รอเราอยู่ในปีหน้า โดยแสตมป์ชุดนี้มีทั้งสิ้น 4 แบบ ได้แก่ แบบส้มฉุน แบบไอศกรีม แบบลอดช่อง และแบบน้ำแข็งใส ซึ่งเป็นแสตมป์ชุดปีใหม่ 2565 ชนิดราคา 3 บาท มี 4 แบบ แบบละ 500,000 ดวง แบบเป็นชุด ชุดละ 16 ดวง ราคา 48 บาท และซองจำหน่ายราคา 24 บาท ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อ ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ

ปริญญา/ข่าว

***************************************

ศูนย์บริการโลหิต3 ชลบุรี ขอเชิญประชาชนร่วมบริจาคเลือดช่วยเหลือผู้ป่วย

        นางสาวประภาภรณ์ อุดมวินิจศิลป์ ผู้อำนวยการภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้โรงพยาบาลขาดแคลนเลือด ถึงขั้นวิกฤติ จึงขอเชิญชวนประชาชนที่มีสุขภาพแข็งแรง บริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับ โรคเลือด ต้องใช้เลือดในปริมาณมากและต่อเนื่องตลอดชีวิต

        สำหรับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี สภากาชาดไทย ยังรักษามาตรการสร้างความมั่นใจให้เป็นสถานที่ปลอดภัยจาก COVID-19 มีการควบคุม ดูแล รักษาความสะอาด อุปกรณ์ สถานที่ และสุขอนามัยของผู้มาบริจาคโลหิต และบุคลากรที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหน่วยงานไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ ในฐานะที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ทำหน้าที่ในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ ปลอดภัย และมีคุณภาพสูงสุด จากผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ และโลหิตยังคงเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ ซึ่งต้องได้มาจากการบริจาคเท่านั้น มีความต้องการใช้ทุกวัน

         ขอเชิญประชาชนที่มีสุขภาพดี แข็งแรง ร่วมบริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี โทรศัพท์ มหายเลข 038 278905

ปริญญา/ข่าว

**************************************

สมาคมนิสิตเก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯเชิญร่วมงาน “วิ่งสร้างเมือง 2022”

         สมาคมนิสิตเก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชวนนักวิ่งร่วมกิจกรรม “วิ่งสร้างเมือง 2022” (Run For Better City 2022) ตอน Kidtizen (คิด_ตี__เส้น) ในวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 นำรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ

         นายเกียรติศักดิ์ เวทีวุฒาจารย์ หรือ “เกี๊ยง วงเฉลียง” ในฐานะประธานการจัดงานฯ กล่าวว่า โครงการ

“วิ่งสร้างเมือง” (Run For Better City 2022) เป็นกิจกรรมที่จัดโดยสมาคมนิสิตเก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับประชาชน และผลักดันให้เกิดการพัฒนาเมืองในทิศทางที่ดีขึ้นควบคู่ไปกับการพัฒนาชีวิตของคนเมือง

และสิ่งแวดล้อม ตามแนวคิดของการสร้างเมืองให้ยั่งยืน สอดคล้องกับวิชาชีพสถาปนิกที่เป็นผู้ออกแบบอาคาร

และสร้างสรรค์พื้นที่สาธารณะต่างๆ ในชุมชน ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม โดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอย

การปฏิสัมพันธ์และสภาพแวดล้อม

        “การจัดงานในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด (คิด_ตี__เส้น) "Kidtizen" เพราะเราเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของพลเมืองและจะเป็นกำลังสำคัญที่ขับเคลื่อนสังคมเพื่อการพัฒนาประเทศในอนาคต พร้อมสนับสนุนให้เด็กได้คิด และตีเส้นทางชีวิตของตนเอง และมั่นใจว่าสามารถ

ประสบความสำเร็จได้บนเส้นทางที่สร้างขึ้นจากจุดเริ่มต้นที่ดี โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้กับมูลนิธิเด็กอ่อน

ในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กในชุมชนแออัด โดยการสร้างจิตสำนึก และการมีส่วนร่วมของครอบครัว ชุมชน และสังคมเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เด็กที่ขาดโอกาสให้ได้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี”

สำหรับรูปแบบกิจกรรม จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 04.30 น.

ณ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และบริเวณโดยรอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเป็นการวิ่งเพื่อสุขภาพ 3 ระยะ แบ่งเป็น ระยะมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร, ระยะไมโครมาราธอน 5 กิโลเมตร, ระยะนาโนมาราธอน 2.5 กิโลเมตร บัตรราคา 800 บาท โดยจะได้รับเสื้อที่ระลึก, หมายเลขวิ่ง, เหรียญที่ระลึกตามระยะ และชุดอาหาร ฟรี! สำหรับเด็กส่วนสูงไม่เกิน 1.20 ม. ที่มาพร้อมผู้ปกครองที่สมัครในประเภทไมโครมาราธอน หรือนาโนมาราธอน รับฟรี เสื้อที่ระลึก, หมายเลขวิ่ง, ชุดอาหารสำหรับเด็ก (จำนวนจำกัด 200 คน)

         ผู้สนใจร่วมกิจกรรม “วิ่งสร้างเมือง 2022”สามารถสมัครผ่านทาง

https://www.runlah.com/events/r4bc2022 หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @R4BC และ Facebook: วิ่งสร้างเมือง

ปริญญา/ข่าว

*******************************************

GISTDA ร่วมกับ มูลนิธิเสนาะ อูนากูล และ TDRI ถอดบทเรียน ESB ถึง EEC เปิดผลติดตามการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ด้วย AIP Platform ชู 4 ข้อเสนอ พัฒนาพื้นที่ ศก.พิเศษ อย่างยั่งยืน

            ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อํานวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เปิดเผยว่า การพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก ESB และนำมาสู่ผลการติดตามโครงการ EEC การติดตามสถานะโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และบริบทของพื้นที่ในภาคตะวันออก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน (ปี 2564) พร้อมขับเคลื่อนแนวคิดและหลักการใช้ข้อมูล การใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาในพื้นที่ สำหรับการตัดสินใจเชิงนโยบาย อีกทั้งต้องการส่งเสริมการนําวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปสนับสนุนการตัดสินใจการพัฒนาพื้นที่ของผู้กําหนดนโยบายในพื้นที่ EEC และภูมิภาคอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

           โดย GISTDA มีบทบาทสำคัญในการนําเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Geo-Spatial data) และพัฒนา Platform เรียกว่า Actionable Intelligence Policy หรือ AIP สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล โดยมีวัตถุประสงค์ให้เป็น Platformแสดงผลบน Dashboard  ที่ให้ข้อเสนอแนะ เพื่อแก้ปัญหาและสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายในการพัฒนาพื้นที่ ให้สอดคล้องกับศักยภาพ ความสามารถที่รองรับได้ ซึ่งผลการศึกษาได้นำมาสู่ 4 แนวทางในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ยั่งยืนทั้งสำหรับ EEC และพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษอื่น ๆ ในภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ 1. การจัดทำและบังคับใช้แผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน ดังที่ EEC ได้ดำเนินการแล้ว เพื่อให้สามารถกำหนดพื้นที่เพื่อกิจกรรมต่างๆ ได้สอดคล้องกับภูมิศาสตร์และการอยู่ร่วมกันในสังคม 2. การกำหนดจำนวนผู้ประกอบการหรือจำนวนโรงงานแต่ละประเภท โดยคำนึงถึงขีดความสามารถในการรองรับของธรรมชาติ มีการจำกัดจำนวนใบอนุญาต จัดระบบซื้อขายใบอนุญาต ดังที่ สกพอ. ใช้ควบคู่กับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 3. การพัฒนาระบบขนส่งขยะ ของเสีย การคัดแยก และกำจัดขยะ ของเสียในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เพราะการพัฒนาเขตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมตามมาด้วยของเสียหรือขยะอันตราย ขยะติดเชื้อ และขยะมูลฝอยจากชุมชน จึงต้องมีการกำหนดพื้นที่และมีนวัตกรรมสำหรับการกำจัดขยะทุกประเภทอย่างเหมาะสม และ4. ผลักดันให้นำธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม (Environmental Governance) มาปฏิบัติเป็นแนวทางปกติในการประกอบกิจการหรืออุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม มีการให้ความรู้และเปิดเผยข้อมูลต่อชุมชนให้ทราบ รวมทั้งพัฒนาให้มีระบบการติดตามการดำเนินงานของเขตเศรษฐกิจพิเศษต่อเนื่อง  ดังเช่นที่รายงานฉบับนี้ได้นำเสนอเทคโนโลยี AIP ของ GISTDA ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้มีระบบเฝ้าระวังทุกมิติด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของประชาชน ระบบจัดเก็บและใช้ข้อมูลต่อไป

ปริญญา/ข่าว

***************************************

Visitors: 219,226