โคโรนาพ่นพิษ รัฐบาลจีนประกาศปิดประเทศกระทบการท่องเที่ยวไทย
โคโรนาพ่นพิษ รัฐบาลจีนประกาศปิดประเทศกระทบการท่องเที่ยวไทย
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา สวนนงนุชพัทยา ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและหาทางออก เนื่องจากจีนประกาศปิดประเทศห้ามบริษัททัวร์ขายผลิตภัณฑ์ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และกิจการท่องเที่ยว ทำให้ประเทศไทยกระทบหนัก โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านการท่องเที่ยวไทย สวน สนามบินอู่ตะเภาขานรับ ลดค่าธรรมเครื่องบินขึ้น-ลง และลดค่าธรรมเนียมผู้โดยสารเข้า-ออก นาน 1 ปี
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้นายธรรมศักดิ์ รัตนธัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีเดินทางมายังสวนนงนุชพัทยา โดยมีพลเรือโท กฤชพล เรียงเล็กจำนง ผู้อำนวยการ การท่าอากาศยานอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง นางปิ่นนาถ เจริญผล ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา และนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา ได้เดินทางมายังสวนลอยฟ้า มีนายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา พร้อมผู้บริหาร ให้การต้อนรับ เพื่อติดตามสถานการณ์เรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดผลกระทบกับการท่องเที่ยวโดยตรงกับผู้ประกอบการจังหวัดชลบุรี
จากกรณีที่สำนักงานกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ได้ออกประกาศด่วนมายังผู้ประกอบการนำเที่ยวในประเทศจีน โดยมีข้อความระบุว่า ตามคำสั่งของ นายลีจิ้นฝิง ประธานาธิบดี ให้หยุดการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบสายพันธุ์ใหม่อย่างเร่งด่วน เพื่อปกป้องชีวิตประชาชน กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว จึงได้ออกคำสั่งให้ บริษัทฯนำเที่ยวทั่วประเทศหยุดดำเนินกิจกรรมท่องเที่ยว หยุดขายผลิตภัณฑ์ตั๋วเครื่องบิน และโรงแรม ส่วนทัวร์ที่เดินทางออกไปแล้ว ขอให้ดำเนินการให้เรียบร้อย และต้องระมัดระวังโดยคำนึงถึงสถานการณ์สุขภาพของนักท่องเที่ยวแต่ละคนอย่างเคร่งครัด โดยหน่วยงานท้องถิ่นต้องตระหนักถึงความสำคัญเหตุการณ์ฉุกเฉินครั้งนี้
จากประกาศดังกล่าวนี้ทำให้ นายนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี มีความเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี ที่มีเมืองพัทยา เป็นเมืองหน้าด่าน รวมถึงสวนนงนุชพัทยา และแหล่งท่องเที่ยวทุกแห่งที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในรูปแบบทัวร์ และการเดินทางแบบครอบครัว ส่วนตัว ที่สำคัญก็จะเกิดผลกระทบกับสายการสายการบิน.โดยเฉพาะท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง –พัทยา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินมาใช้บริการสนามบินแบบเช่าเหมาลำจำนวนมาก อีกทั้งมีการเดินทางภายในประเทศของนักท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก ถ้าประเทศจีนปิดทั้งประเทศ จะเกิดผลกระทบกับผู้ประกอบการในทุกมิติอย่างแน่นอน จึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนระดมความคิด เพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินนี้เร่งด่วน จึงได้มอบหมายให้ นายธรรมศักดิ์ รัตนธัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เดินทางมารับฟังปัญหาและหาแนวทางรับสถานการณ์ต่อไป
นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า สถานการณ์ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่โคโรน่า ที่มีการแพร่ระบาดในขณะนี้ ต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงแน่นอน เนื่องจากทางการจีน ได้มีประกาศชัดเจนแล้วว่าเพื่อชีวิตของประชาชน ตลอดจนการแพร่ระบาดของไวรัสจะไม่แพร่ระบาดในวงกว้างต่อไป ก็ต้องปิดการคมนาคมเชื่อมต่อระหว่างเมืองอู๋ฮั่น และการเดินทางเข้า-ออกประเทศ ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้นคงต้องใช้ระยะเวลานานในการควบคุมโรคระบาดนี้ ผู้ประกอบการ ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว จะต้องปรับแผนกลยุทธ์กันใหม่ เพื่อรับศึกนี้ เกรงว่าถ้าใช้ระยะเวลานาน ผู้ประกอบการจะได้รับผลกระทบ ซึ่งทางด้าน สวนนงนุชพัทยา ได้เตรียมแผนรับสถานการณ์ไว้แล้ว ด้วยการสนับสนุนท่องเที่ยวไทย เปิดโอกาสให้คนไทยเข้ามาเที่ยวชมสวนนงนุชพัทยาฟรี ตามที่ได้กำหนดไว้ ว่าเดือนไหนเป็นของจังหวัดใด ถึงแม้ว่าจะเกิดปัญหาวิกฤติทางต่างประเทศ แต่ก็เป็นโอกาสของคนไทย ได้ดูแลคนไทยด้วยกัน
วาระแรกที่ต้องดำเนินการก็คือ ตั้งแต่วันที่ 1-28 เดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นเดือนเทศกาลแห่งความรัก สวนนงนุชพัทยา ได้รีเทริน หรือย้อนกลับให้ ประชาชนที่มีบัตรประชาชนในเขตจังหวัดชลบุรี เข้าเที่ยวชมฟรีอีกครั้ง ทั้งเดือน เพื่อชมสวนลอยฟ้าที่ยิ่งใหญ่ และสวยที่สุดในโลก เนื่องจากในช่วงที่เปิดให้เที่ยวชมครั้งแรก สวนลอยฟ้ายังไม่เสร็จเรียบร้อย พร้อมทั้งได้มีโอกาสสักการะพระพุทธปฎิมากรศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสยาม จำนวน 9 องค์ คือพระแก้วมรกต พระพุทธชินราช พระพุทธมหาสุวรรณศกยมุนี พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) หลวงพ่อพระใส หลวงพ่อโสธร พลวงพ่อบ้านแหลม และหลวงพ่อวัดไรขิง อีกทั้งพระประจำวัน ที่ได้ทำพิธีพุทธาภิเษก เสริมความศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา และยังได้กล่าวอีกว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวสวนนงนุชพัทยา ก็สามารถท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวในภาคตะวันออกได้อีกด้วย เช่น หาดบางแสน พัทยา นาจอมเทียน สัตหีบ และสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง อีกจำนวนมาก ก็จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับธุรกิจท่องเที่ยวได้อย่างมาก
ส่วนทางด้าน พลเรือโท กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กล่าวว่า พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และประธานบริหารการท่าอากาศยานอู่ตะเภา มีความเป็นห่วงในเรื่องนี้อย่างมาก เพราะท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง –พัทยา ได้มีนักท่องเที่ยวชาวจีน เดินทางมายังสนามบินอู่ตะเภาแบบเช่าเหมาลำจำนวนมาก จึงได้ดำเนินการติดเครื่องเทอร์โมสแกน ตรวจวัดอุณหภูมิในร่างกายของนักท่องเที่ยวขาเข้าชาวจีนอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา และเกรงว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา จะซ้ำรอยคล้ายกับไข้หวัด “ซาร์ส” หรือหวัดมรณะ ก่อให้เกิดวิกฤติอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยอย่างแน่นอน
และกล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหานี้ ประธาน และคณะกรรมการบริการ การท่าอากาศยานอู่ตะเภา ได้สั่งการให้ การท่าอากาศยานอู่ตะเภา เร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหา และสนับสนุนการท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยให้มีการปรับลดราคาค่าธรรมเนียมขึ้น-ลงของอากาศยาน ที่เก็บอากาศยาน และปรับลดค่าธรรมเนียมผู้โดยสารเข้า-ออก ร้อยละ 50 เฉพาะเที่ยวบินที่มีผู้โดยสารขาออกจากสนามบินอู่ตะเภาที่ภายในและภายนอกประเทศ ตามอัตราส่วนของผู้โดยสาร การอำนวยความสะดวก สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวให้มากที่สุด พร้อมทั้งประสานสายการบิน เพื่อแสวงหาตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวประเทศเวียดนาม อินเดีย ตุรกี รัสเซีย อินเดีย ลาว พม่า และขณะนี้ สายการบินเวียตเจท(vietjet)ของประเทศเวียดนาม ได้ทำการเปิดสายการบินเที่ยวประจำจากอู่ตะเภา ไปโฮจิมินส์ เรียบร้อยแล้ว
ปริญญา/ข่าว/ภาพ