โรงแรมแกรนด์เบลลา ประกาศตัวเปิดพื้นที่อาคาร 140 ห้อง ให้รัฐใช้เป็นที่กักกันผู้เฝ้าระวังโรคโควิด-19
โรงแรมแกรนด์เบลลา ประกาศตัวเปิดพื้นที่อาคาร 140 ห้อง ให้รัฐใช้เป็นที่กักกันผู้เฝ้าระวังโรคโควิด-19
โรงแรมแกรนด์เบลลา ประกาศตัวเปิดพื้นที่อาคาร 140 ห้อง ให้รัฐใช้เป็นที่กักกันผู้เฝ้าระวังโรคโควิด-19 โดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายพร้อมสนับสนุนอาหารเครื่องดื่มพร้อม หวังเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่พัทยา
วันอังคารที่ 1 เมษายน 2563 นางสาวมรกต กุลดิลก ผู้จัดการโรงแรม Grand Bella เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางผู้ประกอบการโรงแรมในเขตเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงที่ประเทศจีนปิดประเทศ แม้กลุ่มลูกค้าเดิมของโรงแรมเป็นกลุ่มอินเดียและรัสเซียก็ตามแต่ก็มีปริมาณลดลงมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสถานการณ์มีความรุนแรงมากขึ้นแต่ภาครัฐเองกลับไม่มีความชัดเจนต่อการช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยวแต่อย่างใด โดยเฉพาะกรณีค่าเยียวยาพนักงานซึ่งในส่วนของโรงแรมตอนนี้ไม่ได้ปิดให้บริการเนื่องจากยังมีพนักงานหลายร้อยคนที่ต้องดูแลและจ่ายค่าตอบแทนพนักงานตามปกติ ทำให้ต้องแบกรับค่าใช่จ่ายที่สูงแม้รายได้จะมีมาเข้ามาเลยก็ตาม
นางสาวมรกต กล่าวต่อไปอีกว่า ด้วยสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน จึงได้มีแนวคิดให้โรงแรม Grand Bella ถูกจัดทำเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อเป็นสถานที่ในการควบคุมกักกันผู้ติดเชื้อในเมืองพัทยา ซึ่งแม้ภาครัฐจะไม่มีงบประมาณในการดำเนินการโรงพยาบาลสนาม แต่โรงแรมยังมีตึกว่างที่ไม่มีลูกค้าเข้ามาพัก จึงจะนำตึกนี้มาเป็นโรงพยาบาลสนามโดยจะไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้สำหรับโรงแรมทั้งหมดมี 3 อาคาร รวม 360 ห้อง แต่จะจัดแบ่งพื้นที่ของอาคาร 3 จำนวน 140 ห้อง เพื่อจัดทำเป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้ามาสำรวจสถานที่ของทีมเจ้าหน้าที่แพทย์-พยาบาลว่ามีความพร้อมขนาดไหน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับคนที่เข้าพักและคนที่ดูแลและปฏิบัติงานในพื้นที่ได้มีความปลอดภัยทุกคน
สำหรับการให้ใช้พื้นที่โรงแรมมาเป็นโรงพยาบาลสนามนั้นมองว่าโรงแรมก็ไม่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอยู่แล้ว น่าจะนำไปใช้ประโยชน์เพื่อส่วนรวมโดยค่าใช้จ่ายทางโรงแรมจะรับผิดชอบทั้งหมด ทั้งค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ และอาหาร เรื่องนี้แม้จะเกิดผลกระทบจากความวิตกของลูกค้าโรงแรมในเครืออยู่บ้าง แต่ทางโรงแรมก็มองว่าอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมแม้เป็นส่วนเล็กก็ตาม เพราะสามารถควบคุมโรคและทำให้ยอดผู้ป่วยที่ลดลงได้ซึ่งจะส่งผลดีกับทุกคนในเมืองพัทยาและครอบครัวด้วย ทั้งนี้มองว่าหากสถานการณ์การหยุดแพร่เชื้อดีขึ้นและโรคนี้จบสิ้นลงได้โดยความร่วมมือของทุกฝ่าย อาทิ การกักตัวเองอยู่บ้าน การตรวจรักษา และแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เหมือนกับที่เมืองอู่ฮั่น ในประเทศจีน ที่ดำเนินการมาก็คาดว่าภายใน 2-3 เดือนสถานการณ์ก็คงจะเบาบางหรือจบลง แต่หากไม่มีแนวทางหรือช่วยกันในการแก้ไขเลย ก็คงไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้และคงมองไม่เห็นอนาคตที่จะหยุดเชื้อไวรัสโควิด-19ได้ ทั้งนี้ทุกฝ่ายควรต้องร่วมใจกันให้ความสำคัญให้มาก ไม่เพียงแต่รอมาตรการจากทางรัฐเพียงอย่างเดียว ตัวเราเองที่เป็นประชาชนก็ต้องให้ความสำคัญที่จะช่วยเหลือกันในการหยุดยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ให้ได้ด้วย
ปริญญา/ข่าว/ภาพ