ข่าวประชาสัมพันธ์ 1-15 มกราคม 2564

ประชาสัมพันธ์ สำนักงานประสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี

โทรศัพท์/โทรสาร 038 - 279448  www.chonburipr.net

ระหว่างวันที่ 1 – 15 มกราคม 2564

****************************************************************

มหาดไทย แจ้งเตือนป้ายประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

       นายวิวัฒน์ มหาผลศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดชลบุรี โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทย ความว่า กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นบทบัญญัติที่มุ่งควบคุมและจำกัดการโฆษณาประชาสัมพันธ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค รวมทั้งนำไปสู่อุบัติเหตุและอุบัติภัยทางการจารจร

       กระทรวงมหาดไทย ให้จังหวัดชลบุรี กำชับส่วนราชการหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้ที่ระมัดระวังการจัดงานรื่นเริงสังสรรค์ของหน่วยงาน โดยหลีกเลี่ยงการแสดงตราสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายทางการค้าของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ประชาสัมพันธ์ในบริเวณจัดงาน รวมถึงควบคุมการจัดงานรื่นเริงของภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งมีการแสดงเครื่องหมายตราสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายการค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้เกิดการร้องเรียนการกระทำผิดตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551

      หากมีประเด็นข้อร้องเรียนในเรื่องดังกล่าวให้เสนอคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จั

หวัด ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้ชัดเจนโดยเร็ว เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป

ปริญญา/ข่าว

*************************************

โรงพยาบาลขาดเลือดเข้าขั้นวิกฤติทั่วประเทศ กาชาดเลือดไม่พอจ่าย วอนคนไทยสุขภาพดี ช่วยเหลือผู้ป่วย

        ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย วอนคนไทยสุขภาพดีช่วยกันบริจาคโลหิต อย่างเร่งด่วน ชี้สถานการณ์การระบาด COVID-19 Wave 2 ส่งผลกระทบผู้บริจาคโลหิตลดลงอย่างมาก ทำให้โลหิตขาดแคลนเข้าขั้นวิกฤติทั่วประเทศ

          รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงดุจใจ ชัยวานิชศิริ ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19  Wave 2 ขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยในโรงพยาบาลต่างๆ โดยเฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่ๆ หลายแห่ง ที่ต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดให้ผู้ป่วย รวมทั้งผู้ป่วยเด็ก โรคเลือด อาทิ โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ฮีโมฟีเลีย ที่ต้องใช้เลือดในปริมาณมากและต่อเนื่องตลอดชีวิต โดยโรงพยาบาลทั่วประเทศกว่า 340 แห่ง มีความต้องการเลือดสูงมาก แต่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ไม่สามารถจ่ายเลือดให้กับโรงพยาบาลต่างๆ ได้อย่างเพียงพอ เนื่องจากผู้บริจาคโลหิตมีจำนวนลดลงทุกแห่งทั่วประเทศ หน่วยงานยกเลิกการจัดกิจกรรมรับบริจาคโลหิต เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาด และสถาบันการศึกษาปรับรูปแบบการเรียนการสอนเป็นออนไลน์ ส่งผลให้มีปริมาณโลหิตบริจาควันละ 700 - 900 ยูนิต เท่านั้น ลดลงมากถึงร้อยละ 50

        ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ และภาคบริการโลหิตแห่งชาติ ยังคงรักษามาตรการสร้างความมั่นใจให้เป็นสถานที่ปลอดภัยจาก COVID-19 มีการควบคุม ดูแล รักษาความสะอาด อุปกรณ์ สถานที่ และสุขอนามัยของผู้มาบริจาคโลหิต และบุคลากรที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกหน่วยงานไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ ในฐานะที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ทำหน้าที่ในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ ปลอดภัย และมีคุณภาพสูงสุด จากผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ และโลหิตยังคงเป็นยารักษาโรคที่สำคัญ ซึ่งต้องได้มาจากการบริจาคเท่านั้น  มีความต้องการใช้ทุกวัน

       สำหรับสถานที่รับบริจาคโลหิต (ส่วนกลาง) ประกอบด้วย หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ 6 แห่ง ได้แก่ สถานีกาชาด 11 วิเศษนิยม (บางแค) บ้านทรงไทย (ย่านวงศ์สว่าง) เดอะมอลล์ บางแค เดอะมอลล์ บางกะปิ เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียมและโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลวชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราชสถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า หรือโรงพยาบาลประจำจังหวัดทั่วประเทศ

        ส่วนภูมิภาค ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง ได้แก่ภาคฯ จ.ลพบุรี ภาคฯ จ.ราชบุรี ภาคฯจ.ขอนแก่น ภาคฯจ.นครสวรรค์ ภาคฯ จ.เชียงใหม่ ภาคฯ จ.ภูเก็ตภาคฯ จ.ชลบุรี ภาคฯ จ.นครราชสีมา ภาคฯ จ.อุบลราชธานี ภาคฯ จ.พิษณุโลก ภาคฯ จ.สงขลา ภาคฯ จ.นครศรีธรรมราช

         ขอวอนคนไทยสุขภาพดี บริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเร่งด่วน ถึงเวลาแล้วที่คนไทย ต้องช่วยกันรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย บริจาคโลหิตฝ่าวิกฤติ COVID-19 รอบ 2 ไปด้วยกัน

       สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี โทรศัพท์ มหายเลข 038 278905

ปริญญา/ข่าว

************************************

สช. ยุคใหม่ ทันโลก ครอบคลุม เข้าถึงทุกความต้องการของการศึกษาเอกชน

     นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทำ “สช. On Mobile” ในรูปแบบ Mobile Application ขึ้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ข้อมูลไปถึงโรงเรียนเอกชน ผู้ปฏิบิตัหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาเอกชน รวมทั้งผู้ปกครองและประชาชนทั่วไป พร้อมกันนี้ “สช.On Mobile” Application ยังเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงการใช้บริการแก่ ครู และบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สช. เพื่อเพิ่มช่องทางในการอำนวยความสะดวกก้าน การติดต่อสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร สนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลด้านความรู้และสวัสดิการจาก สช. ไปยังผู้บริหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สช. เพื่อการบริการที่เหนือความคาดหมาย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถตอบโจทย์การใช้งานในยุค 4.0 ซึ่งกำลังก้าวไปสู่ 5.0 ในปัจจุบันนี้ได้

        โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัส ทำให้กลุ่มเป้าหมายได้รับข้อมูล ข่าวสาร การประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้อง เป็นประโยชน์ เชื่อถือได้ และสามารถตรวจสอบสวัสดิการและสิทธิพิเศษได้ทันที สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลจาก สช. การแสดงปฏิทินกิจกรรม และตารางอบรมของ สช. ที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิก พร้อมการแจ้งเตือนไปยังสมาชิก และในอนาคตยังสามารถเชื่อมต่อระบบกองทุนสงเคราะห์ เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ต่างๆ ของครูเอกชน รวมไปถึง feature อื่นๆ ที่สำคัญอีกมากมาย เช่น กดดูรู้ที่เรียน เบอร์ติดต่อสำคัญ และการแจ้งเตือนสมาชิก เป็นต้น และในอนาคตจะเพิ่มฟิเจอร์ที่เป็นประโยชน์มากขึ้น ทำให้สามารถลดขั้นตอน และช่วยลดเวลาในการเดินทางมาติดต่อที่ สช. ในการติดต่อธุรกิจต่างๆ ผ่าน Application นี้ได้เลย

       ผู้บิรหาร ครู และบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สช. สามารถดาว์นโหลดแอปพลิเคชัน “สช. On mobile” ได้แล้ววันนี้ ทั้งในระบบ แอนดรอยด์ และระบบ ios โดยติดตามรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน https://opec.go.th/home/

ปริญญา/ข่าว

**********************************************

อัยการคุ้มครองสิทธิ์ฯ เปิดช่องทางผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อประชาชน

       พันตำรวจตรี คมพสิษฐ์ เวียงอินทร์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค2 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID – 19 ได้มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสในจังหวัดชลบุรี เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางราชการได้เร่งรัดดำเนินกระบวนการสอบสวนโรคเพื่อค้นหาบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงที่ใกล้ชิดหรือมีความสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อให้การควบุคมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID – 19 เกิดประสิทธิภาพ ทันต่อเหตุการณ์ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมายและการบังคับคดีจังหวัดชลบุรี ได้เปิดช่องทางการติดต่อโดยประชาชนไม่ต้องเดินทางไปขอใช้บริการ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ตามนโยบายการเว้นระยะห่างทางสังคม จำนวน 7 ช่องทาง ประกอบด้วย

      1.การให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ หมายเลข 038 – 791272 โทรสาร 038 – 288038

      2.สายด่วนอัยการ 1157

      3.ทางเว็บไซต์ : สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชลบุรี

      4.ทางอีเมล : E – mail: chon-lawaid@go.th

      5.ทางไลน์ (Line) : ID LINE : @847cjtyl

      6.ทางเฟชบุ๊ค (Facebook fanpage) : สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชลบุรี

      และ 7.ทางระบบ Cisco Webex Meeting : สามารถโหลดแอ็ฟ แล้วปะลิงค์นี้ https://meet21.webex.com/meet/1263576550 ชื่อKhanita Amla

ปริญญา/ข่าว    

************************************

กระทรวงพาณิชย์ กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 งวดที่9

        นายสุธรรม ลครรำ พาณิชย์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้ออกประกาศ เรื่อง การกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง และการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 งวดที่9 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 งวดที่9

      สำหรับการประกาศครั้งนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้แถลงราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 งวดที่9 สำหรับเกษตรกรที่เก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2563 – 3 มกราคม 2564 ดังนี้

           1.ข้างเปลือกหอมมะลิ เกญฑ์กลางตันละ 12,573.20 บาท ชดเชยตันละ 2,426.80 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครับวเรือละ 33}975.20 บาท

          2.ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 11,993.73 บาท ชดเชยตันละ 2,006.27 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ  32}100.32 บาท

         3.ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 9,442.99 บาท ชดเชยตันละ 557.01 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 16}710.30 บาท

         4.ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 10,830.42 บาท ชดเชยตันละ 169.58 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 4,239.50 บาท

        และ 5.ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 11,503.71 บาท ชดเชยตันละ 496.29 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 7,940.64 บาท

      ในการนี้ มีเกษตรกรที่ได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 29,773 ครัวเรือน

ปริญญา/ข่าว

*********************************

ขอเชิญชวนผู้ที่มีสุขภาพดี ร่วมช่วยกันบริจาคโลหิตผ่านวิกฤติโรคระบาด ส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัยให้กับผู้ป่วย

         นางสาวประภาภรณ์ อุดมวินิจศิลป์ หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี สภากาชาดไทย เปิดเผยว่า ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติที่3 จังหวัดชลบุรี สภากาชาดไทย ขอเชิญชวนผู้ที่มีสุขภาพดี ช่วยกันบริจาคโลหิตอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยผู้ป่วยทั่วประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ระบาด COVID – 19 ส่งผลกระทบผู้บริจาคโลหิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้อยู่ในภาวะโลหิตสำรองไม่เพียงพอ พร้อมประกาศเป็นแกนกลางสร้างมาตรการเข้มเป็นสถานที่สะอาดปลอดเชื้อ COVID – 19 สร้างความมั่นใจความปลอดภัยทั้งผู้บริจาคโลหิต และการส่งต่อโลหิตที่ปลอดภัยไปยังผู้ป่วยต่อไป

       สำหรับภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี สภากาชาดไทย ได้ออกมาตรการสร้างความมั่นใจ ให้เป็นสถานที่ปลอดภัยจาก COVID – 19 โดยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้ที่มีความประสงค์บริจาคโลหิต ติดตั้งแอลกอฮอลล์เจลทั่วอาคาร เพื่อให้ผู้บริจาคโลหิตทำความสะอาดมือ ทำความสะอาดวัสดุอุปกรณ์ทุกชนิด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดพื้นห้องรับบริจาคโลหิต ห้องปฏิบัติการ ห้องผลิต ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ 0.05 % Sodium hypochlorite ในส่วนพื้นห้องสำนักงานให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดทั่วไปตามมาตรฐาน ทำความสะอาดบริเวณปฏิบ้ติงาน เช่น โต๊ะเก้าอี้ ปุ่มกดลิฟต์ และจุสัมผัสร่วมต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื่อ 70% alcohol เปลี่ยนผ้าคลุมตัวผู้บริจาคโลหิตผืนใหม่ทุกวัน และการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล สำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านการรับบริจาคโลหิต

        ขอเชิญผู้มีจิตทรัศธา ผู้ที่มีสุขภาพดี หรือผู้ที่ครบกำหนดบริจาคโลหิต 3 เดือนแล้ว มาบริจาคโลหิตเร่งด่วน เพื่อช่วยผู้ป่วยทั่วประเทศ โดยเปิดรับบริจาคตั้งแต่วันจันทร์ ถึงวันศุกร์ เวลา 08.30 – 19.30 น. และวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยูดนักขัตฤกษ์  เปิดรับบริจาคตั้งแต่เวลา 09.00 -15.30 น. ที่ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 3 จังหวัดชลบุรี สภากาชาดไทย ส่วนหน่วยเคลื่อนที่บริเวณหน้าอมตะนคร เปิดรับบริจาคในวันอังคาร พุธ และพฤหัสบดี  เปิดรับบริจาคตั้งแต่เวลา 08.30 – 15.30 น (เปิดทุกวัน ไม่หยุดพักเที่ยง) หรือสอบถามได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข 038 – 278905 ต่อ 111

ปริญญา/ข่าว

*****************************************************

 

Visitors: 212,355