อมตะ มั่นใจฉีดวัคซีนตามแผนปลายปี คาดยอดขายที่ดินทำได้ตามเป้า 950 ไร่

“อมตะ”มั่นใจฉีดวัคซีนได้ตามแผนดันลงทุนฟื้นตัวปลายปี คาดยอดขายที่ดินทำได้ตามเป้า 950 ไร่รับช่วงพีคไฮซีซั่น

          “อมตะ” คาดยอดขายที่ดินปี 64 เป็นไปตามเป้าหมาย 950 ไร่ เตรียมรับอานิสงส์ รัฐบาลปูพรมฉีดวัคซีน ตามเป้าหมาย70% ของจำนวนประชากร ได้สำเร็จ แนะรัฐคลายล็อคกักตัว 14 วันของนักธุรกิจในการเดินทางเข้าไทย เพื่อลดเวลาขั้นตอนติดต่อการค้า ลงทุน หวังเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน ช่วงไฮซีซั่น ปลายปีนี้

            นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า ขณะนี้บรรยากาศการลงทุนโดยภาพรวมน่าจะปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลได้มีการปูพรมเพื่อระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ในเป้าหมาย 70% ของจำนวนประชากร ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวหากเป็นไปตามแผน จะมีส่วนสำคัญต่อการเปิดภาคธุรกิจและนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยได้ เพราะมีส่วนสนับสนุนให้เกิดการขยายการลงทุนได้เป็นอย่างดีและเกิดการเดินทางติดต่อระหว่างประเทศได้สะดวกขึ้น

            ในส่วนของการดำเนินงานของอมตะไตรมาส 1 และ 2 /2564 ถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ที่ข้อตกลงการซื้อ-ขายจะมีจำนวนน้อยมากเป็นไปตามไซเคิลแต่ละปีอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ข้อตกลงที่มีการเซ็นสัญญากัน จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ของทุกปี ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดภาพการเจรจาซื้อขายที่ดิน แตกต่างจากภาวะปกติ เพราะติดการเดินเข้ามาประเทศไทย จึงใช้วิธีการเจรจาผ่านระบบออนไลน์เพื่อทำความเข้าใจในรายละเอียดในพื้นที่ดินให้กับลูกค้า ซึ่งสามารถดำเนินการในระดับหนึ่ง แต่การตัดสินใจซื้อที่ดินจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อกลุ่มลูกค้าต้องเดินทางเข้ามาเห็นพื้นที่จริงเนื่องจากที่ดินมีมูลค่าสูง จำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบ

            อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่ายอดขายที่ดินยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วาง ไว้ 950 ไร่ ทั้งไทยและนิคมฯ ในประเทศ เวียดนาม แม้ว่าปีที่แล้วจะมียอดขายต่ำกว่าเป้าหมาย ด้วยปัจจัยที่มั่นใจว่า นักลงทุนที่สนใจประเทศไทย ยังคงลงทุนต่อเนื่อง และหากรัฐบาลสามารถปลดล็อคเงื่อนไขผ่อนปรนการเข้าประเทศให้กับนักลงทุนได้ เชื่อว่าแนวโน้มการลงทุนในนิคมฯอมตะ จะเป็นไปตามแผน จากที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการเจรจาไปแล้วในหลายราย

            ทั้งนี้เห็นว่าปัจจุบัน การเดินทางเข้าประเทศของนักลงทุน ยังมีมาตรการ ที่ต้องกักตัว 14 วัน เพื่อเป็น Alternative State Quarantine ทำให้ขั้นตอนในส่วนนี้เกิดอุปสรรคในเรื่องระยะเวลาของการเข้ามาเจรจาของกลุ่มลูกค้า เพราะหากรวมระยะเวลาแล้ว ที่ต้องกลับไปกักตัวในประเทศของตนเองอีก รวมแล้วเกือบ 1 เดือน ที่ไม่สามารถทำบริหารจัดการธุรกิจได้

            “ดังนั้น ในมุมมองของเอกชน ภาครัฐควรคลายข้อกำหนดต่างๆ ที่อาจเป็นอุปสรรค เพื่อให้การเปิดประเทศ โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่มีแผนเปิดพื้นที่กรุงเทพฯ จะเป็นการอำนวยความสะดวก และเป็นการส่งเสริมให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศได้มากขึ้น” นายวิบูลย์กล่าว

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 213,753