ข่าวประชาสัมพันธ์ 15 - 31 สิงหาคม 2566

ข่าวประชาสัมพันธ์ จังหวัดชลบุรี

สำนักงานประสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี

ระหว่างวันที่ 15 - 31 สิงหาคม 2566

**********************************************

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนประชาชนฝนตกหนักถึงหนักมาก

       กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 1 เรื่อง ฝนดกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน เหตุร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น เสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

        นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนภัยเรื่อง ฝนดกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนฉบับที่ 1 (226/2566) มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566

ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ร่องมรสุมกำลังแรงจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น

        ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

        สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมืคลื่นสูง 2 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า2 เมตร รอให้ขาวเรือในบริเวณดังกล่าว เดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

        ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และ และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.co.th หรือที่ 0-2399.4012-13 และ 1182 ใด้ตลอด 24ชั่วโมง

ปริญญา/ข่าว

*****************************

ผู้ว่าชลบุรี เตือนประชาชนเฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก

      กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เตือนภัยเรื่อง ฝนดกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 นี้

       นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ขอแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ติดตามข้อมูล สภาวะอากาศ ปริมาณฝน และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และให้เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนัก ปริมาณฝนตกสะสม โดยพื้นที่ลุ่มต่ำ อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง พื้นที่ลาดเชิงเขา อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ เตรียมพร้อมทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย และแผนเผชิญเหตุ รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ ให้มีความพร้อมบรรเทาภัย ปฏิบัติงานอำนวยความสะดวก และให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยตลอด 24 ชั่วโมง

       ทั้งนี้ หากพบเห็นหรือได้รับผลกระทบ และต้องการความช่วยเหลือเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยพิบัติสามารถแจ้งเหตุผ่านทางโทรศัพท์สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ แจ้งไปที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ศาลากลางจังหวัดชลบุรี ชั้น 2 ถนนมนตเสวี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี 20000 โทร 0-3827-8031-2 โทรสาร 0-3827-8031-2. หรือสายด่วน 1784

ปริญญา/ข่าว

******************************

จังหวัดมุกดาหารเชิญชวนซื้อสินค้า มุกดาหารแบรนด์ (Mukdahan Brand )

        นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหารกำหนดจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า ที่ได้รับตราสัญลักษณ์เครื่องหมายรับรองมุกดาหารแบรนด์ (Mukdahan Brand) และสินค้าเด่นของจังหวัดมุกดาหาร โดยจะจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์เครื่องหมายรับรอง “มุกดาหารแบรนด์” และสินค้าเด่นของจังหวัดมุกดาหารภายใต้โครงการพัฒนาเพื่อยกระดับการผลิตสินค้าและพัฒนาความร่วมมือทางการค้าการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อส่งเสริมช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้ประกอบการและเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าจังหวัดมุกดาหารให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

        สำหรับ “งานแสดงและจำหน่ายสินค้า มุกดาหารแบรนด์และสินค้าเด่นจังหวัดมุกดาหาร” กำหนดจัดระหว่างวันที่ 30 สิงหาคมถึงวันที่ 3 กันยายนนี้ ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีสินค้าที่ได้รับมาตรฐานเครื่องหมายรับรองฯ Mukdahan Brand ผลิตภัณฑ์ GI ผ้าหมักโคลนหนองสูง ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ,ผ้าย้อมคราม ของฝากของใช้ ของที่ระลึก จังหวัดมุกดาหาร

       จังหวัดมุกดาหาร ขอเชิญชวน ช้อปสินค้ามุกดาหารแบนรด์ และสินค้าเด่นของจังหวัดมุกดาหารได้ที่ ลานโปรโมชั่น ชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคมถึงวันที่ 3 กันยายนนี้

ปริญญา/ข่าว

*************************

รัฐบาลอนุญาตเปิดสถานบริการ 24 ชั่วโมง ในพื้นที่เมืองการบินภาคตะวันออก

            น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2566 ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ กฎกระทรวง กำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ออกโดยกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการอนุญาตให้สถานบริการเปิดบริการได้ 24 ชั่วโมง ในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งภายหลังการเผยแพร่กฎกระทรวงดังกล่าวได้ปรากฎว่าสังคมบางส่วนได้มีเข้าใจที่คาดเคลื่อนว่าเป็นการอนุญาตที่ครอบคลุมถึงพื้นที่โดยรอบด้วยนั้น

        ในกรณีนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยืนยันว่าอนุญาตให้เปิดบริการ 24 ชั่วโมงของสถานบริการจะมีได้เฉพาะในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(บอร์ดอีอีซี) เรื่อง กำหนด เขตส่งเสริม : เมืองการบินภาคตะวันออก ลงวันที่ 13 ก.พ. 61 ซึ่งอยู่ในสนามบินอู่ตะเภาเท่านั้น ไม่ครอบคลุมถึงพื้นที่โดยรอบหรือเมืองท่องเที่ยวต่อเนื่องอื่น เช่น เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี หรือพื้นที่อื่นในจังหวัดระยอง โดยพื้นที่อื่นๆ ภายนอกเขตส่งเสริมเมืองการบินยังต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การเปิด-ปิดสถานบริการตามปกติ

     “เขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออกตามประกาศของบอร์ดอีอีซีครอบคลุมพื้นที่ 6,500 ไร่ในสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาเท่านั้น ซึ่งการอนุญาตนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับกิจการภายในสนามบินที่จะต้องมีการบินเข้า-ออกทั้งในส่วนของผู้โดยสาร การขนส่งสินค้า ที่จะต้องมีอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจำเป็นต้องมีบริการ กิจการร้านค้าต่างๆ เปิดให้บริการรองรับ เช่นเดียวกับสนามบินนานาชาติอื่นๆ เช่นสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ที่ก็มีการอนุญาตให้ร้านค้าและบริการต่างๆ เปิดบริการในสนามบินได้ 24 ชั่วโมงเช่นกัน และการอนุญาตนี้จะสนับสนุนให้สนามบินอู่ตะเภามีบริการที่ครบวงจร สามารถดึงดูดการท่องเที่ยว และลงทุนให้เกิดในพื้นที่อีอีซีในภาพรวมได้”

ปริญญา/ข่าว

***************************

กรมปศุสัตว์เตือนเกษตรกรระวังโรคระบาดสัตว์หน้าฝน

         นายนายชวนะ ทองเย็น ปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า เนื่องจากประเทศไทย ได้เข้าฤดูฝนแล้ว กรมปศุสัตว์ มีความห่วงใยสุขภาพสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร เนื่องจากสภาพอากาศที่บางวันมีแดด และฝนตกหนัก สัตว์ที่เลี้ยงไว้อาจเกิดความเครียดและอ่อนแอ ทำให้ภูมิคุ้มกันโรคต่ำลง ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคต่างๆ ได้ง่าย โดยโรคสัตว์ที่อาจจะพบได้ในช่วงหน้าฝน ได้แก่ โค กระบือ แพะ แกะ มักมีปัญหาเรื่องท้องอืด ท้องเสียจากการกินหญ้าอ่อนที่เพิ่งแตกยอดเมื่อได้รับน้ำฝนเข้าไปเป็นจำนวนมาก เพราะที่ผ่านมาสัตว์จะกินแต่ฟาง หรือหญ้าแห้งตลอดในช่วงฤดูแล้ง สำหรับโรคระบาดสัตว์ที่ควรเฝ้าระวัง เช่น โรคปากและเท้าเปื่อย ซึ่งสามารถพบได้ในสัตว์เคี้ยวเอื้องทุกชนิดโดยสัตว์ป่วยจะแสดงอาการซึม เบื่ออาหาร น้ำลายยืด เป็นแผลที่ปากและกีบ

         นอกจากนี้ยังมีโรคคอบวมที่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงในกระบือและโค สัตว์ที่ป่วยจะตายเฉียบพลันซึ่งทั้งสองโรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรค นอกจากนี้ยังมีโรคเลปโตสไปโรสิสหรือโรคฉี่หนู สัตว์ติดเชื้อได้จากการสัมผัสเชื้อที่ปนเปื้อนในดินหรือน้ำและเชื้อเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผลที่ผิวหนังหรือเยื่อเมือกตา จมูกและปาก โดยสัตว์ที่ป่วยจะมีไข้ สัตว์ตั้งท้องอาจแท้งได้ มีอาการดีซ่านรวมทั้งปัสสาวะมีสีแดง ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่ติดต่อระหว่างสัตว์และคน

         ดังนั้นเกษตรกรจึงต้องดูแล ให้ความสำคัญกับการจัดการโรงเรือนหรือคอกสัตว์ที่ดี มีหลังคา ป้องกันฝน ลม และละอองฝนได้เป็นอย่างดี หรือจัดเตรียมสถานที่ที่ให้สัตว์สามารถหลบฝนได้ มีการจัดเตรียมน้ำ อาหาร ยา และเวชภัณฑ์ให้พร้อม ทำวัคซีนตามโปรแกรมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างให้สุขภาพสัตว์แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยได้ง่าย

        หากสัตว์เลี้ยงป่วยเกษตรกรสามารถติดต่อสอบถามมาที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชลบุรี โทรศัพท์หมายเลข 038 285286

ปริญญา/ข่าว

************************************

กรมควบคุมโรค ย้ำรีบกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำและป้องกันยุงลายกัด ลดความเสี่ยงโรคไข้เลือดออก และป้องกันทารกในครรภ์ศีรษะเล็กแต่กำเนิด จากไวรัสซิกาที่มากับยุงลาย

      กรมควบคุมโรค เตือนขณะนี้ยังมีฝนตกเกือบทุกวัน และเป็นระยะการระบาดของโรคไข้เลือดออก เนื่องจากน้ำฝน  ไปตกค้างอยู่ตามภาชนะที่อาจมีไข่ยุงลายที่เป็นพาหะนำโรค แนะนำรีบกำจัดภาชนะที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์  เพื่อลดความเสี่ยงป่วยโรคไข้เลือดออก ไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา โดยเฉพาะโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ที่ทำให้ทารกในท้อง ของหญิงตั้งครรภ์พิการ อาจแท้งได้ หรือคลอดออกมาเป็นทารกที่มีศีรษะเล็กและมีพัฒนาการล่าช้า

         นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในระยะนี้เป็นฤดูฝน มีฝนตกเกือบทุกวัน ส่งผลให้น้ำฝนที่ตกลงมาไปตกค้างอยู่ตามภาชนะที่อาจมีไข่ยุงลายอยู่เดิม หรือยุงวางไข่ใหม่ในภาชนะน้ำขังที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เพิ่มจำนวนยุงลายที่เป็นพาหะนำโรค เช่น โรคไข้เลือดออก โรคปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ซึ่งเคยมีการระบาดในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยอยู่ระยะหนึ่งแล้วเงียบหายไป แต่กลับมามีรายงานการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโรคนี้อีกครั้งในปีนี้ ปัจจุบันพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาแล้ว 266 ราย พื้นที่ที่มีการรายงานผู้ป่วย 24 จังหวัด โดยระยะ 4 สัปดาห์ล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นสูงที่จังหวัดจันทบุรี (37 ราย) และเพชรบูรณ์ (23 ราย) โดยหากผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นหญิงตั้งครรภ์ จะส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ ทำให้มีศีรษะเล็ก และมีความพิการแต่กำเนิด ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษา แต่สามารถป้องกันและรับการตรวจวินิจฉัยได้

          นายแพทย์ธเรศ กล่าวต่อว่า วิธีที่ดีที่สุดของการป้องกันโรคติดเชื้อจากยุงลายทั้ง 3 โรคนี้คือ ป้องกันอย่าให้ถูกยุงลายกัด แม้ทำได้ยาก ด้วยประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้น มีพื้นที่และภูมิอากาศเหมาะสมกับการเจริญพันธุ์ของยุงลาย การลดประชากรยุงลายต้องมีความพร้อมเพรียงกันในระดับชุมชน โดยการจัดการสิ่งแวดล้อมไม่ให้ยุงลายมีที่วางไข่ ยุงลายชอบวางไข่ในน้ำใสนิ่งตามภาชนะกักเก็บน้ำชนิดต่างๆ รวมไปถึงขยะเศษภาชนะ กล่องโฟมที่ถูกทิ้ง จานรองกระถางต้นไม้ หรือกาบใบไม้ใหญ่ๆ ยุงลายไม่ชอบน้ำสกปรกเน่าเหม็น จึงเป็นยุงที่อยู่ใกล้ตัวเราในบริเวณบ้านมากที่สุด หากประชาชน พบเจอภาชนะขังน้ำดังกล่าว สังเกตว่ามีลูกน้ำอยู่ในนั้นด้วยหรือไม่ หากพบก็ให้รีบกำจัดเททิ้งบนดิน เพราะหากปล่อยทิ้งไว้อีกไม่เกิน 7-10 วัน ลูกน้ำเหล่านั้นจะกลายเป็นยุงตัวเต็มวัยมากัดผู้คนได้ นอกจากนี้ มีวิธีป้องกันไม่ให้ถูกยุงกัดอีกหลายวิธีซึ่งประชาชนเลือกได้ เช่น นอนในมุ้ง จุดหรือทายากันยุง ติดตั้งมุ้งลวดกันยุงเข้าบ้าน รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค คือ “3 เก็บป้องกัน 3 โรค” 1.เก็บบ้าน ให้ปลอดโปร่ง ไม่ให้ยุงลายเกาะพัก  2.เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย และ3.เก็บน้ำ ปิดภาชนะให้มิดชิดเพื่อไม่ให้ยุงลายลงไปวางไข่ หรือปล่อยปลากินลูกน้ำก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง จะสามารถป้องกันได้ทั้ง 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา

        นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มว่า โรคติดเชื้อไวรัสซิกา มีรายงานพบผู้ป่วยครั้งแรกที่ประเทศยูกันดา ในปี 2490 ที่ผ่านมาเคยมีการระบาดใหญ่ในหลายประเทศเมื่อปี 2559 ในครั้งนั้น พบหญิงตั้งครรภ์คลอดทารกพิการที่มีศีรษะเล็กแต่กำเนิด และพัฒนาการล่าช้า เช่น การระบาดที่ประเทศบราซิลพบทารกแรกเกิดศีรษะเล็กหลายพันคน ส่วนสถานการณ์ในประเทศไทยพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสซิกาประปรายเมื่อประมาณสิบปีก่อน โดยผู้ป่วยจะเริ่ม มีไข้ ผื่นแดงตามผิวหนัง ปวดศีรษะ เยื่อบุตาแดงอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อและศีรษะ หลังจากถูกยุงลายที่มีเชื้อไวรัสซิกากัดประมาณ 3-14 วัน แม้ส่วนใหญ่อาการจะไม่รุนแรงแต่อาจจะพบรายที่มีอาการรุนแรงภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท เช่น กลุ่มอาการอักเสบของเส้นประสาท GBS (Guillain-Barre Syndrome)

        โรคนี้มีหญิงตั้งครรภ์เป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญ เนื่องจากเชื้อไวรัสซิกาจากมารดาที่ป่วย สามารถส่งต่อไปยังทารกในครรภ์ และไวรัสยังทำให้ทารกมีศีรษะเล็ก (microcephaly) จากสมองไม่เติบโต เกิดความพิการแต่กำเนิด และพัฒนาการล่าช้า  บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น แท้ง ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์ที่มีอาการไข้ ออกผื่น ตาแดง ปวดข้อ ให้สงสัยว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกา และรีบพบแพทย์เพื่อขอรับการตรวจวินิจฉัยโรคทันที

      ทั้งนี้ ขอสื่อสารให้ประชาชนช่วยกันลดความเสี่ยงของโรคนี้ด้วยการป้องกันยุงลายกัดร่วมกันกับการกำจัดยุงตัวแก่และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ขอให้ตระหนักถึงความเสี่ยงอยู่เสมอโดยเฉพาะคู่ครองที่วางแผนจะมีบุตรต้องไม่ละเลยการเตรียมตัวให้พร้อมในด้านเคหะสถานที่ถูกสุขลักษณะไม่ให้มียุงลาย ซึ่งหญิงที่เริ่มตั้งครรภ์ยิ่งต้องมีความตระหนักในการป้องกันไม่ให้ถูกยุงลายกัด โดยยุงลายสามารถพบได้ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ กินเลือดเวลากลางวันมากกว่ากลางคืน  หากใส่ใจป้องกันยุงกัดและหมั่นสังเกตกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ก็จะปลอดภัยมากขึ้น หากสงสัยสอบสามารถถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

ปริญญา/ข่าว

************************

Visitors: 219,130