ข่าวประชาสัมพันธ์ 1 - 15 พฤศจิกายน 2565
ข่าวประชาสัมพันธ์ จังหวัดชลบุรี
สำนักงานประสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
ระหว่างวันที่ 1 – 15 พฤศจิกายน 2565
*******************************************************************
ผู้ว่า ชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจราชการอำเภอพนัสนิคม
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดชลบุรี ได้จัดทำแผนการตรวจราชการของผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีพื้นที่อำเภอพนัสนิคม ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 ที่ว่าการอำเภอพนัสนิคม เพื่อรับฟังสภาพปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและร่วมแก้ไขปัญหา โดยกำหนดให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ที่รับผิดชอบเขตพื้นที่การปกครองอำเภอ ปลัดจังหวัดชลบุรี หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนร่วมลงพื้นที่เพื่อรับฟังสภาพปัญหาและร่วมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ต่อไป
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ในช่วงเช้าเป็นประชุม เพื่อติดตามปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และโครงการสำคัญต่างๆ ที่ได้ดำเนินการในพื้นที่ และในช่วงบ่ายเป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มศักยภาพของประชาชนต่อไป
ปริญญา/ข่าว
****************************************
ขอเชิญร่วมพิธีทำบูญและฟังเทศน์บทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีใน “อินนมัตถจรกถา”
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากในปีพุทธศักราช 2565 เป็นปีมหามงคล ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรบราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำคัมภีร์เทศน์เฉลิมพระเกียรติฯ บทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา” เพื่อถวายวัดทั่วราชอาณาจักรสำหรับนำไปแสดงพระธรรมเทศนา ให้พุทธศาสนิกชนได้สดับ และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทุกวันพระตลอดทั้งปี
สำหรับจังหวัดชลบุรี ได้จัดพิธีทำบุญและฟังเทศน์บทพระธรรมเทศนาเฉลิมพระธรรมบารมีใน “อุภินนมัตถจรกถา” เฉลิมพระบารมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.30 น. ที่วัดเขาบางพระ ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา และในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.30 น. ที่วัดพานทอง ตำบลพานทอง จังหวัดชลบุรี
ขอเชิญข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ศาลตุลาการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และพ่อค้าประชาชน ร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว
ปริญญา/ข่าว
************************************
ชลบุรี จัดงานมหากรรม พรรณไม้งาม อร่ามชล
นายบุญลือ คงสูงเนิน เกษตรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดชลบุรี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และวิสาหกิจชุมชนไม้ดอกไม้ประดับชลบุรี กำหนดจัดงาน “พรรณไม้งาม อร่ามชล” ครั้งที่5 ระหว่างวันที่ 20 – 27 พฤศจิกายน 2565 น สนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการตลาด แลกเปลี่ยนความรู้ทักษะและแนวทางการผลิตด้านการเกษตร ส่งเสริมการทอ่งเที่ยวและขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจจาคเกษตรในจังหวัดชลบุรี ฟื้นฟูและเยียวยา สร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ในการพัฒนาคุณภาพการผลิตให้ดียิ่งขึ้นไป และวิสาหกิจชุมชนแปรรูปสินค้าเกษตรและเครือข่ายต่างๆ
ปริญญา/ข่าว
*****************************************
ม.บูรพา จัดงานแกลเลอรี่ในพ์บางแสน ครั้งที่2
นายเสกสรร ตันยาภิรมย์ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ได้ดำเนินการจัดโครงการ “แกลเลอรี่ในท์บางแสน” (Galleries Nights) ครั้งที่2 ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2565 ซึ่งถือเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ผ่านกระบวนการคิดทางศิลปะ และการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ ระหว่างศิลปินคณาจารย์ และนิสิตนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา กับประชาชนในแหล่งพื้นที่ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองแสนสุข อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
ขอเชิญผู้ในสนใจสามารถเข้าชมงานได้ตามวันและเวลาดังกล่าว
ปริญญา/ข่าว
******************************************
คปภ. จัดกิจกรรม “คปภ.นำเที่ยวไทย AmaZing ยิ่งกว่าเดิม ด้วยประกันภัย”
นางสาวพุทธภรณ์ วงค์รอด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ภาค6 (ชลบุรี) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการกำกับดูแล และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกัยภัย รวมถึงคุ้มครองและส่งเสริมให้ประชาชนได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วนจากการประกับภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำประกับภัยตามพระราชบัญญัติของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นการประกันภัยภาคบังคับที่จะช่วยเหลือประชาชนได้รับความคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุเดินทางสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งเป็นการประกันภาคบังคับ ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2559 และประชาสัมพันธ์ในลักษณะเชิงรุก โดยมุ่งเน้นการดำเนินการในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว อีกทั้งก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการส่งเสริมสนับสนุนท่องเที่ยวอีกด้วย
สำนักงาน คปภ. ภาค6 (ชลบุรี) ไดจัดการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ตามโครงการ “คปภ. นำเที่ยวไทย AmaZing ยิ่งกว่าเดิม ด้วยประกันภัย” ในวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 12.00น. ณ ห้องประชุมศรีสุข มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี จังหวัดชลบุรี ขอเชิญผู้ประกอบการ หรือผู้แทนเข้าร่วมการจัดกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว
ปริญญา/ข่าว
การศึกษาในประเทศไทย ชี้ อัตราเสียชีวิตส่วนเกิน (excess death) ช่วงการระบาดโควิดจำนวนไม่มาก เป็นผลจากการที่พี่น้องประชาชนร่วมมือกันรับวัคซีนเกิน 80% ย้ำฉีดวัคซีนลดการป่วยตายจากโควิดชัดเจน
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ดัชนีตัวหนึ่งที่ใช้วัดการเพิ่มหรือลดลงของการเสียชีวิตในแต่ละประเทศในภาพรวมเปรียบเทียบกับจำนวนที่คาดการณ์ คือ "อัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน" หรือที่เรียกว่า เอ็กซ์เซสเดธ (excess death) ซึ่งประเทศต่างๆ ทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยใช้ประเมินผลกระทบของโควิด 19 ที่มีต่อสุขภาพของประชาชน ซึ่งมีหลายเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบบริการสุขภาพในระยะวิกฤตโควิด 19 การจำกัดการเดินทาง และความล่าช้าในการเข้ารับการรักษาเมื่อเจ็บป่วย แต่ไม่พบหลักฐานที่แสดงว่าเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด 19
ซึ่งในปี พ.ศ. 2563 มีตัวเลขผู้เสียชีวิตในประเทศไทยที่เกิดจากทุกสาเหตุรวมกันต่ำกว่าที่คาด เนื่องจากขณะที่เริ่มมีการระบาดของโควิด 19 ประเทศไทยใช้มาตรการปิดเมือง (Lockdown) ในหลายพื้นที่และมีการใช้มาตรการสาธารณสุขอื่นๆ ควบคู่ เช่น สวมหน้ากาก ล้างมือ งดกิจกรรมเสี่ยง ทำงานจากบ้าน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอย่างได้ผลดี ส่งผลทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตลดน้อยลง แต่ปีพ.ศ.2564 พบว่าตัวเลขการตายส่วนเกินในประเทศไทยเพิ่มขึ้นไม่มากเปรียบเทียบกับตัวเลขคาดการณ์แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขของประเทศที่รองรับภาวะวิกฤตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางด้านนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 สะสมกว่า 143 ล้านโดส เท่ากับประชาชนกว่า 57 ล้านราย ซึ่งข้อเท็จจริงคือประเทศไทยได้เริ่มมีการบริการฉีดวัคซีนลอตใหญ่ในครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2564 โดยวัคซีนไฟเซอร์เริ่มฉีดอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 4 ตุลาคม 2564 และในไตรมาสที่ 4 ได้มีการเร่งฉีดวัคซีนทุกชนิดจนครบ 100 ล้านโดส ในปลายเดือนธันวาคม 2564 ทั้งนี้ ประเทศไทย มีการศึกษาอัตราการตายส่วนเกินในช่วงปี 2563-2564 พบว่า ปีพ.ศ. 2563 ภาพรวมจำนวนเสียชีวิตต่ำกว่าจำนวนที่คาดการณ์ ส่วนปีพ.ศ. 2564 มีการตายส่วนเกินเพิ่มขึ้น แต่เกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงอายุในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน พ.ศ. 2564 เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นระยะที่ประเทศไทยประสบกับการระบาดรุนแรงจากไวรัสสายพันธุ์เดลตา
ดังนั้น การอ้างว่า การที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่สูงขึ้นในปีที่ผ่านมามีความเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด จึงไม่สมเหตุผล และไม่สอดคล้องกับช่วงระยะเวลาที่มีการฉีดวัคซีนจำนวนมาก อีกทั้งการศึกษาในประเทศอื่นยังไม่พบหลักฐานความสัมพันธ์กับวัคซีนโควิด ซึ่งหากย้อนทบทวนเหตุการณ์ช่วงกลางปี 2564 ที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด 19 ทำให้ต้องระดมทรัพยากรทางการแพทย์และสาธารณสุขไปใช้ในการป้องกันควบคุมและรักษาโรคโควิด 19 อย่างเต็มที่ ทั้งกำลังคน เตียง การบริการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาลหลายแห่งได้ปิดหน่วยรักษาโรคอื่นๆ รวมทั้งปิดห้องผ่าตัดหากมีแพทย์และพยาบาลติดเชื้อ ดังนั้น จึงเกิดผลกระทบต่อการให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคต่างๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ผู้ป่วยรอผ่าตัดหรือรอเตียงนานขึ้น อาจทำให้อาการแย่ลงได้ อีกทั้งมีผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่ไม่กล้าไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเพราะกลัวติดโควิด รอจนอาการหนัก เช่น ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคปอด โรคไต ล้วนเป็นเหตุที่ทำให้มีอัตราการเสียชีวิตส่วนเกิน ซึ่งเป็นสภาพเช่นเดียวกันที่เกิดขึ้นกับอีกหลายๆ ประเทศทั่วโลก ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีนแต่อย่างใด
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ในทางตรงกันข้าม ข้อมูลคาดประมาณผลสัมฤทธิ์จากการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทย ศึกษาโดยรศ.ดร.ชรินทร์ โหมดชัง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะ พบว่าการฉีดวัคซีนโควิด 19 ช่วยป้องกันการเสียชีวิตในประเทศไทยจำนวนกว่า 4.9 แสนราย โดยปีพ.ศ. 2564 ป้องกันได้ประมาณ 382,600 ราย และในปีพ.ศ. 2565 ป้องกันได้ประมาณ 107,400 ราย การที่ประเทศไทยสามารถปกป้องไม่ให้มีผู้เสียชีวิตจากโควิดได้จำนวนมาก เนื่องจากมีนโยบายการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพตรงเป้าหมาย กำหนดให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงได้รับวัคซีนก่อน เร่งรัดฉีดวัคซีนในพื้นที่ระบาดรุนแรง ซึ่งหากไม่มีมาตรการฉีดวัคซีนโควิด 19 คาดได้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อโควิดเสียชีวิตอีกเป็นจำนวนมาก ดังจะเห็นได้ว่าระยะนี้ ผู้เสียชีวิตจากโควิด 19 ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับหรือได้รับวัคซีนไม่ครบชุด และแม้อาการของโรคโควิดในเด็กมักไม่รุนแรง แต่ยังมีเด็กเล็กเสียชีวิตจากโควิดเป็นระยะและประวัติไม่ได้รับวัคซีนโควิด จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ว่าการศึกษาและหลักฐานต่างๆ บ่งชี้ไปทางเดียวกันว่าวัคซีนมีประโยชน์ และไม่ควรปล่อยให้เด็กๆเกิดการติดเชื้อตามธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้ป่วยหนักและเสียชีวิตได้
ปริญญา/ข่าว/ภาพ
***************************