ข่าวประชาสัมพันธ์ 1 - 15 พฤษภาคม 2566
ข่าวประชาสัมพันธ์ จังหวัดชลบุรี
สำนักงานประสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี
ระหว่างวันที่ 1 – 15 พฤษภาคม 2566
**************************************************************
ขอเชิญร่วมงาน EEC Job Expo 2023
พันจ่าเอกสันติ เกิดประสพ จัดหางานจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานจัดหางานจังหวัดชลบุรี มุ่งเน้นการขับเคลื่อนภารกิจของกรมการจัดหางานด้วยการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้มั่นคงและยั่งยืน ได้กำหนดจัดงาน “EEC Job Expo 2023” ระหว่างวันที่ 16 – 17 มิถุนายน 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 17.00 น. ณ SI RACHA HALL ชั้น4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา จังหวัดชลบุรี
สำหรับการจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการมีงานทำของประชาชน ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ซึ่งถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างมั่นคงและยั่งยืน อีกทั้งยังสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการมีงาทำให้แก่ประชาชนวัยทำงานทุกกลุ่มเป้าหมาย มุ่งเน้นให้คนไทยต้องมีงานทำในทุกพื้นที่ สนับสนุนการจ้างงานที่มั่นคงและต่อเนื่องเพื่อเพี่มศักยภาพแรงงานและผู้ประกอบการในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างมาก
โดยภายในงาน “EEC Job Expo 2023” ประกอบไปด้วยการออกบูธจากหน่วยงานและองค์กรชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมทั้งมีการรับสมัครงานในรูปแบบ onsite และ online โดยรวบรวมตำแหน่งงานว่างจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศกว่า 10,000 ตำแหน่ง ซึ่งมีทั้งงานประจำงานพาร์ทไทย์ งานสำหรับกลุ่มคนพิเศษ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และงานสำหรับนักศึกษาจบใหม่ นอกจากนี้ยังมีการรับสมัครงานเพื่อไปทำงานต่างประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้ต้องการมีงานทำสามารถลงทะเบียนผ่าน ไทยมีงานทำ โดยระบบประมวลผลจับคู่งาน ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาในการพบกับนายจ้าง สถานประกอบการ อีกทั้งผู้เข้าร่วมงานสามารถพัฒนาทักษะอาชีพ เรียนรู้ไปกับการสาธิตและฝึกอาชีพอิสระ และเพลิดเพลินกับนิทรรศการที่นำไปสู่โลกอาชีพในอนาคต และสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากราชทัณฑ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ OTOP และยังมีการเรียนรรู้การก้าวเข้าสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ Franchise ที่อยู่ในความสนใจของคนยุคใหม่ และกิจกรรมอื้นๆ อีกมากมาย
ผู้สนใจเข้าร่วมสมัครงานหรือสนใจรับสมัครงานสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://jobit.doe.go.th/eecjobexpo2023
ปริญญา/ข่าว
******************************************
ศธ. กำชับ สถานศึกษาทั่วประเทศเตรียมพร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิดรับเปิดเทอม
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ภาพรวมของสถานศึกษาก่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 มีการวางมาตรการที่เป็นไปตามข้อกำหนดของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยเฉพาะมาตรการป้องกันโควิดในสถานศึกษา รวมถึงการวางแผนจัดทำสื่อการเรียนการสอนสำหรับการเปิดภาคเรียนใหม่ ทั้งนี้ในวันที่ 15 พ.ค. ถือเป็นการเปิดภาคเรียนใหม่ของสถานศึกษาพร้อมกันทั่วประเทศ กำชับให้สถานศึกษาทุกแห่งวางมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดเรียนให้ดี โดยเฉพาะความปลอดภัยในสถานศึกษาจะต้องมีความปลอดภัยให้แก่นักเรียนครบทุกมิติ
ขอให้สถานศึกษาได้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตามแผนปฏิบัติการเดิมที่เราเผชิญกับโควิดมาก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน ศธ. จะมอนิเตอร์ข้อมูลโควิดร่วมกับ สธ. เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดระลอกใหม่อย่างใกล้ชิด
ปริญญา/ข่าว
************************************
กรมควบคุมโรค เตือนสถานการณ์โควิด 19 เป็นขาขี้น ยังไม่ผ่อนมาตรการป้องกันโรค เร่งฉีดวัคซีนคู่ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 เพื่อลดป่วยหนักและเสียชีวิต
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องภายหลังเทศกาลสงกรานต์ สัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 2,356 ราย เฉลี่ยวันละ 336 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 39%
เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักแพทย์วินิจฉัยปอดอักเสบ และผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ เพิ่มขึ้นประมาณ 45% ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า โดยมากกว่าครึ่ง (55%) เป็นกลุ่ม 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ที่เหลือเป็นผู้ที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด 19 ลดลงมาก ได้แก่ ผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มล่าสุด หรือติดเชื้อแล้วนานเกิน 6 เดือน ขอแนะนำประชาชนเข้ารับวัคซีนโควิด 19 พร้อมกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่โดยเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงต่อการป่วยหนักจากทั้ง 2 โรค และเน้นย้ำหากป่วยด้วยอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจ ATK รวมทั้งหลีกเลี่ยงใกล้ชิดกลุ่ม 608 เมื่อตรวจพบผลบวก 2 ขีด ให้สวมหน้ากาก และสังเกตอาการ หากมีอาการมากให้ไปพบแพทย์ สำหรับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ให้ไปรับบริการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป หรือ LAAB ได้ที่โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลภาครัฐสังกัดอื่น ทั้งนี้ ประเทศไทยยังมี ยา เวชภัณฑ์สำรอง และเตียงเพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด 19 ที่มีอาการรุนแรง
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 องค์การอนามัยโลก ประกาศสิ้นสุดภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ กรณีโรคโควิด 19 แต่ยังเตือนให้ทุกประเทศยังคงต้องเฝ้าระวัง และป้องกันควบคุมการระบาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเร่งรัด
การฉีดวัคซีนเพื่อให้มีระดับภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิด 19 เพียงพอในระดับบุคคลและประชากร เพื่อลดโอกาสป่วยหนักและเสียชีวิตจากโควิด 19 โดยสามารถใช้วัคซีนชนิดใดหรือรุ่นใดก็ได้ ฉีดปีละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ ให้เว้นระยะห่างจากเข็มสุดท้ายหรือประวัติการติดเชื้ออย่างน้อย 3 เดือน ที่สำคัญสามารถฉีดพร้อมกับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ โดยฉีดที่ต้นแขนคนละข้าง และในสัปดาห์นี้โรงเรียนมีการเปิดภาคเรียน ขอให้ผู้ปกครองและครูสังเกตอาการ คัดกรองเด็กป่วยด้วยอาการทางเดินหายใจ เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ให้หยุดอยู่บ้านรักษาให้หายก่อน จะลดโอกาสแพร่เชื้อในโรงเรียน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
ปริญญา/ข่าว
*****************************************