ข่าวประชาสัมพันธ์ ระหว่างวันที่ 15 - 30 มิถุนายน 2564

ประชาสัมพันธ์ สำนักงานประสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี

โทรศัพท์/โทรสาร 038 - 279448  www.chonburipr.net

ระหว่างวันที่ 15 - 31 มิถุนายน 2564

***************************************************************

กศน. จัดประกวดภาพวาดส่งเสริมวัฒนธรรมความสัมพันธ์ ไทย – ญี่ปุ่น ชิงเงินรางวัลกว่า 100,000 บาท

       นายภานุมาส ปัญญามงคล ประชาสัมพันธ์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต ร่วมกับมูลนิธิเอ็มโอเอไทย จัดโครงการประกวดภาพวาดส่งเสริมวัฒนธรรมความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 16 ประจำปี 2564 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนระดับประถมศึกษาได้พัฒนาศักยภาพในด้านการคิดเชิงระบบ การคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ และสามารถตัดสินใจแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลควบคู่ไปกับการพัฒนาในด้านจิตใจให้มีสุนทรียภาพ ความงามในจิตใจด้วยกิจกรรมภาพวาด

      สำหรับการจัดประกวดภาพวาคครั้งนี้ ได้แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย นักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 และนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” (ศศช.) สังกัดสำนักงาน กศน. ระดับประถมศึกาปีที่ 1-6 (ที่มีอายุระหว่าง 7-12 ปี) โดยแบ่งการประกวดออกเป็น 6 ระดับ ได้แก่ ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 ผลงานที่ได้รับรางวัลทุกระดับจะได้รับเงินรางวัลพร้อมโล่ และผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ รองชนะเลิศอันดับ 1 และรองชนะเลิศอันดับ 2 ของแต่ละระดับ จะส่งเข้าประกวดต่อในงานประกวดภาพวาดเด็ก ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ MOA ประเทศญี่ปุ่น ส่วนผลงานภาพวาดที่ส่เข้าร่วมดครงการ และถูกต้องตามกติกาจะได้รับเกียรติบัตร

      ทั้งนี้ สามารถส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ตั้งบัดนี้เป็นต้นไปถึงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ซึ่งสามารถส่งทางไปรษณีย์เท่านั้น โดยส่งมาที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต เลขที่ 5 หมู่2 ตำบลรังสิต อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี รหัสไปรษณีย์ 12110 หรือ มูลนิธิเอ็มโอเอไทย เลขที่ 10 ซอยประวิทย์และเพื่อน (เทศบาลรังสรรค์เหนือ 14) ถนนประชาชื่น แขวงลาดยาว เขตจตุจักร (เยื้องสมาคมนักเรียนเก่าอำนวยศิลป์) กรุงเทพฯ 10900 หรือสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02 – 5775455 – 9 ต่อ232 หรือ 305

ปริญญา/ข่าว

***************************************

ป.ป.ช. จัดประกวดบทความวิชาการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

       นายวิวัฒน์ มหาผลศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจากสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า สำนักงาน ป.ป.ช. จัดโครงการประกวดบทความวิชาการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เพื่อสรรหาบทความวิชาการที่มีคุณภาพจากบุคคลภายนอก สำนักงาน ป.ป.ช. ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ ป.ป.ช. ซึ่งกำหนดออกวารสารปีละ 2 ฉบับ ในเดือนมิถุนายน และเดือนธันวาคม

         ขอเชิญชวนบุคลากรในหน่วยงานต่างๆ จัดส่งบทความวิชาการเข้าประกวดและรางวัลสำหรับบทความวิชาการที่ได้รับการคัดเลือก และส่งบทความวิชาการพร้อมใบสมัคร ผ่านทางไปรษณีย์ ที่อยู่สำนักวิจัยและบริการวิชาการฯ สำนักงาน ป.ป.ช. (สนามบินน้ำ) เลขที่ 361 ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่สำนักวิจัยและปริการวิชาการด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โทรศัพท์หมายเลข 02 – 5284800 ต่อ 5819

ปริญญา/ข่าว

*****************************************

ความคืบหน้าการช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ.

           กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกันการชำระเงินคืนกองทุน ในการทำสัญญากู้ยืมเงินใหม่ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป ลดอัตราดอกเบี้ยให้ผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยผิดนัดชำระเหลือ 0.01% ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 – 31 ธันวาคม 2564 พร้อมเพิ่มและขยายระยะเวลามาตรการสู้ภัยโควิด ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 รวมถึงชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดีผู้กู้ยืมเงินที่ผิดนัดชำระหนี้ประจำปี 2563 และปี 2564 และงดการขายทอดตลาดจนถึงสิ้นปี 2564 เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน

        ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชน ทั้งระบบ เพื่อลดภาระหนี้สิน และเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน ปัจจุบันมีลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กว่า 3.6 ล้านคน และผู้ค้ำประกันกว่า 2.8 ล้านคน

         นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการกองทุนฯ ได้มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกการกำหนดให้มีผู้ค้ำประกันการชำระเงินคืนกองทุน สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับอนุมัติให้กู้ยืมเงินและทำสัญญากู้ยืมเงินใหม่ตั้งแต่ปีการศึกษา 2564 เป็นต้นไป และเห็นชอบมาตรการเพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังนี้

1. ลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 0.01% ต่อปี เป็นการเฉพาะกิจ สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและมิได้เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้หรือเคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ (ปกติกองทุนคิดดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปีของเงินต้นคงเหลือ) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 – 31 ธันวาคม 2564

2. ขยายระยะเวลามาตรการช่วยเหลือผู้กู้ยืมสู้ภัยโควิด จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2564 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ประกอบด้วย ลดเบี้ยปรับ 100% กรณีชำระหนี้ปิดบัญชี สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกรายที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา ส่วนผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดี ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่

 https://www.studentloan.or.th/promotion โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีที่ชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ ลดเงินต้น 5% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและมิได้เป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้หรือเคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้ โดยชำระหนี้ปิดบัญชีในคราวเดียว และลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด

3. ชะลอการฟ้องร้องดำเนินคดี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ผิดนัดชำระหนี้ประจำปี 2563 และปี 2564 ยกเว้นคดีที่จะขาดอายุความในปี 2564

4. งดการขายทอดตลาด ทรัพย์สินของผู้กู้ยืมเงิน และ/หรือผู้ค้ำประกัน ที่กองทุนได้ขอให้กรมบังคับคดียึดทรัพย์ไว้จนถึงสิ้นปี 2564 โดยกองทุนจะต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้กู้ยืมเงิน และ/หรือผู้ค้ำประกันที่ถูกยึดทรัพย์ รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ผู้ถือกรรมสิทธิ์ร่วม ผู้รับจำนองที่ยึดไว้ (ถ้ามี)

         ทั้งนี้ กองทุนขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านร่วมกันสู้เพื่อให้ผ่านสถานการณ์โควิดไปด้วยกัน โดยสามารถดูรายละเอียดมาตรการดังกล่าวเพิ่มเติมได้ที่ www.studentloan.or.th หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์บัญชีทางการ กยศ. หรือโทร. 0 2016 4888

ปริญญา/ข่าว

***********************************************

พม ประกาศสืบหาบิดามารดาเด็กถูกทอดทิ้ง     

          นางพัทธ์วิรา สุวรรณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ได้รับคำร้องจากนายนรินท์โชติ วิวัฒน์ไชยชาญ อายุ 42 ปี และนางสาวสุเมรี วิวัฒน์ไชยชาญ อายุ 39 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 75/38 หมู่1 ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีความประสงค์ยื่นเรื่องขอรับเด็ก เด็กหญิงพิมพ์พิศา สารมาตย์ อายุ 7 ปี 11 เดือน (เกิด 14 มิถุนายน 2556) เป็นหลาน (ผู้ขอฯ หญิงเป็นน้องสาวมารดาเด็ก) เป็นบุตรบุญธรรม บิดาชื่อ นายวุฒิพงษ์ สารมาตย์ อายุ 39 ปี ไม่สามารถติดตามได้และไม่ทราบว่าอาศัยอยู่ที่ใด ส่วนมารดาชื่อ นางสาวก้องเกียรติงาม สุณีย์ มารดาเด็กพบกับบิดาเด็กที่ราชอาณาจักรบาเรนท์ ตั้งครรภ์และกลับมาคลอดเด็กที่ประเทศไทย ต่อมาขณะเด็กอายุ 1 เดือนครึ่ง มารดาเด็กได้กลับไปทำงานที่ราชอาณาจักรบาเรนท์ ผู้ขอฯ และยายเด็กจึงได้ช่วยกันเลี้ยงดูเด็ก กระทั่ง เด็กจะเข้าศึกษาระดับชั้นอนุบาล 1 ยายเด็กจึงนำเด็กกลับไปเลี้ยงดูที่จังหวัดอุดรธานี ต่อมามารดากลับมารักษาตัวที่จังหวัดอุดรธานี เนื่องจากป่วย พักรักษาตัวประมาณ 1 ปีเศษ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ด้วยโรคมะเร็งลำไส้ ต่อมาผู้ขอฯ ได้นำเด็กย้ายมาดูแลและศึกษาต่อที่จังหวัดชลบุรี ปัจจุบัน เด็กกำลังจะเข้าศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบุญจิตวิทยา เด็กอยู่ในความดูแลของผู้ขอฯ มาโดยตลอด ผู้ขอฯ มีความประสงค์จะขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม เพราะผู้ขอฯ ต้องดูแลเด็กต่อไปและเพื่อความสะดวกในการทำนิติกรรมต่างๆ แต่ไม่สามารถติดตามมารดาเด็กมาให้ควมยินยอมได้           

         ดังนั้น ก่อนมอบเด็กให้เป็นบุตรบุญธรรมของผู้ขอฯ หาดผู้ใดเป็นบิดามารดาหรือผู้ปกครองของเด็ก โปรดนำหลักฐานสูติบัตรเด็ก บัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ไปติดต่อที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ศาลากลางจังหวัดชลบุรี ชั้น1 หมายเลขโทรศัพท์ 038 – 277877 ต่อ 23 – 26 ในวันเวลาราชการด่วน

ปริญญา/ข่าว

********************************************

อบจ. ชลบุรี รับโอนข้าราชการครู 43 อัตรา

       นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี มีความประสงค์จะรับโอนข้าราชการครูองค์การบริหารส่วนจังหวัด ข้าราชการครูประเภทอื่น หรือพนักงานครูส่วนท้องถิ่นอื่น มาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งครูที่ว่าง เพื่อปฏิบัติงาน ณ สถานศึกษาในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี จำนวน 43 อัตรา

       ผู้สนใจประสงค์ขอโอนยื่นแบบคำร้องขอโอนพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ในวันและเวลาราชการ ณ กองการเจาหน้าที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายสรรหาและบรรจุแต่งตั้ง หมายเลขโทรศัพท์ 038 – 398037 ในวันและเวลาราชการ หรือสามารถดูรายละเอีดยได้ทางเว็บไซต์ www.chon.go.th

ปริญญา/ข่าว

*************************************

กรมการค้า กำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง

       นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรก ผู้ปลูกมันสำปะหลัง ได้ออกประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการ การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2563/64 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน 2563 และฉบับที่ 2 ลงวันที่ 7 ธันวาคม 2563 นั้น แ

        เพื่อให้การดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2563/64 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ของรัฐบาลในการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้สูงขึ้น คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังได้มีมติในคราวประชุม ครั้งที่ 5/2564 เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เห็นขอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2563/64 (งวดที่ 7) อาศัยอำนาจตามความในข้อ 2 (1) ของคำสั่งคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง ที่ 1/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกัน รายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง จึงออกประกาศ ดังนี้

        ข้อ 1 ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2564 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2563/64 (งวดที่ 7) สำหรับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกับกรมส่งเสริมการเกษตร ที่วันที่เพาะปลูกตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 และมีระยะเวลาเก็บเกี่ยวนับจากวันที่เพาะปลูกไม่น้อยกว่า 8 เดือน หัวมันสำปะหลังสดเชื้อแป้ง 25% กิโลกรัมละ 2.40 บาท

       ข้อ 2 การชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมาย (กิโลกรัมละ 2.50 บาท) กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง สำหรับการจ่ายเงินงวดที่ 7 คือ กิโลกรัมละ 0.10 บาท

ปริญญา/ข่าว

************************************

ซีพี-ซีพีเอฟ ร้อยเรียงใจ "ส่งเสบียง" หนุนทีมแพทย์ทั่วไทย สู้วิกฤตโควิด

        การระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ก่อให้เกิดความกังวลกับคนไทยอีกครั้งหนึ่ง นอกจากเราจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและอย่างเข้มงวด รวมทั้งการฉีดวัคซีนซึ่งเป็นความหวังของทุกคนแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ต้องผนึกกำลังรวมใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานอย่างหนัก เพื่อให้คนไทยกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเช่นเดิมโดยเร็ว

         บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ในฐานะผู้ผลิตอาหารชั้นนำ มุ่งมั่นส่งมอบอาหารคุณภาพ สะอาด และปลอดภัย ได้มาตรฐานขั้นสูงสุดของอุตสาหกรรมอาหารระดับโลก ดำเนินโครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน โดยมอบอาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน สนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยจากภารกิจด่านหน้าในการรับมือกับโควิด

         นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ ในฐานะพลเมืองที่ดีของสังคม (Good Corporate Citizen) ได้นำความเชี่ยวชาญด้านการผลิตอาหารไปช่วยเหลือพี่น้องคนไทยให้ผ่านวิกฤตโควิด-19 ภายใต้โครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” เพื่อส่งมอบอาหารพร้อมทานที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมพลังกายและเป็นกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ อสม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เสียสละต่อสู้กับโรคระบาดเพื่อให้คนไทยปลอดภัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังแบ่งปันความอิ่มอร่อยเพื่อแทนคำขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือกับภาครัฐฉีดวัคซีน ร่วมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประเทศไทยด้วย

          ในการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ซีพีเอฟ ยังผนึกกำลัง บริษัทฯ ในเครือซีพี ทั้ง บริษัท ซีพี อินเตอร์เทรด จำกัด หรือซีพีไอ ซีพีออลล์ ทรู แม็คโคร บริษัท เกษตรภัณฑ์อุตสาหกรรม จำกัด หรือเคพีไอ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ มูลนิธิธนินท์-เทวี เจียรวนนท์ มูลนิธิพุทธรักษา และมูลนิธิเชฟแคร์ ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน น้ำดื่ม และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ให้แก่โรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ อาทิ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลชลบุรี โรงพยาบาลระยอง โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จ.แพร่ โรงพยาบาลสนาม จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี โรงพยาบาลสนาม ม.ขอนแก่น โรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โรงพยาบาลสนาม จ.ตรัง โรงพยาบาลสงขลา เป็นต้น รวมถึงกลุ่มเปราะบาง แรงงานต่างชาติ และผู้ที่อาศัยในชุมชนแออัด เช่น คลองเตย ตลอดจนเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครในศูนย์ฉีดวัคซีนต่างๆ อาทิ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 46 จุดทั่ว กทม. ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม และดิ เอ็มโพเรียม วิกฤตจากวันแรก...ถึงวันนี้ ซีพีเอฟ มอบอาหารไปแล้วหลายล้านแพ็ค น้ำดื่มและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหลายล้านขวด ตลอดจนวัตถุดิบอาหารสดและเครื่องปรุงรสสำหรับนำไปปรุงเป็นอาหารพร้อมทาน รวมแล้วกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ

         การระดมความช่วยเหลือในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของประธานอาวุโส ธนินท์ เจียรวนนท์ ที่ต้องการให้ทุกบริษัทในเครือซีพี ภายใต้โครงการ “ซีพีร้อยเรียงใจ สู้ภัยโควิด-19” สอดคล้องกับหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ ไปช่วยเหลือประเทศชาติและประชาชน เพื่อร่วมเคียงข้างคนไทยและเป็น 'ทีมประเทศไทย' ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปด้วยกัน

ปริญญา/ข่าว

Visitors: 219,187