รมช คมนาคม เยี่ยมชมเครื่องจักรยกตู้สินค้าพลังงานดีเซลเป็นไฟฟ้า

 

  

  

  

รมช.คมนาคม เยี่ยมชมเครื่องจักรยกตู้สินค้าพลังงานดีเซลเป็นไฟฟ้า

       วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤศจิกายน 2566 นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อเปลี่ยนเครื่องจักรสำหรับยกขนตู้สินค้าไปท่าเรือ (RTG) จากพลังงานดีเซลเป็นพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ระหว่างบริษัท แอล ซี เอ็ม ที่ จำกัด (LCMT) และบริษัท แซต พี เอ็ม ซี โคเรีย จำกัด (ZPMC korea) พร้อมติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานของท่าเรือแหลมฉบัง โดยมีนายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพันธ์ นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นางสาวฐิติลักษณ์ คำพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย Mr. Ole Lindholm กงสุลพาณิชย์ ตัวแทนจากเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย ผู้แทนจากกรมเจ้าท่า ผู้บริหาร และพนักงานการการท่าเรือแห่งประเทศไทย ท่าเรือแหลมฉบัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี ณ ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

        นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาล มีความตั้งใจขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนปี 2573 ของสหประชาชาติ (UN) ในการประชุมระดับผู้นำ ณ สำนักงานใหญ่ UN เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 โดยประเทศไทยได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะผลักดันความร่วมมือกับหุ้นส่วนความร่วมมือทุกระดับในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการส่งเสริมการเข้าถึงบริการพลังงานสมัยใหม่และใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคมในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อการขนส่งของประเทศได้ตอบรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการสนับสนุนและให้ความสำคัญกับการผลักดันให้ภาคเอกชนที่อยู่ในกำกับดูแล ดำเนินธุรกิจด้วยการนำวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในท่าเรือ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืน

       สำหรับบริษัท LCMT ผู้ประกอบการภาคเอกชน ซึ่งได้รับสัมปทานจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย ประกอบธุรกิจท่าเทียบเรือเดินทะเลระหว่างประเทศ ในพื้นที่ ท่าเรือแหลมฉบัง ได้ริเริ่มนำนวัตกรรมมาปรับเปลี่ยนเครื่องมือเครื่องจักร ที่ให้บริการในท่าเรือให้มาใช้พลังงานสะอาดแทนที่พลังงานจากฟอสซิล เพื่อลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ปล่อยสู่อากาศ ถือเป็นก้าวสำคัญในการดำเนินธุรกิจอันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและพร้อมสู่การเป็นท่าเรือสีเขียวในอนาคตตามนโยบายของกรมฯและรัฐบาลไทย

สำหรับการเปลี่ยนแปลงเครื่องจักร หลักในการให้บริการท่าเทียบเรือระหว่าง ประเทศในท่าเทียบเรือ O ท่าเรือแหลมฉบัง โดยบริษัท LCMY ร่วมกับบริษัท ZPMC Korea มีมูลค่าการลงทุนกว่า 145 ล้านบาท เมื่อการปรับปรุงแล้วเสร็จ จะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 1.5 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนต่อปี และจะช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการรายอื่นได้ตระหนักถึงความสำคัญในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน และการดำเนินธุรกิจขนส่งทางน้ำอย่างยั่งยืนตามนโยบายของรัฐบาลไทย และตามเป้าหมายของ UN ต่อไป

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 218,948