โคนมแห่งประเทศไทย ส่งรอยยิ้มต่อรอยยิ้มให้เด็กผู้ด้อยโอกาส

โคนมแห่งประเทศไทย ส่งรอยยิ้มต่อรอยยิ้มให้เด็กผู้ด้อยโอกาส

       อ.ส.ค.ส่งรอยยิ้มให้เด็กไทย มอบผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คพร้อมเลี้ยงอาหารเย็นให้น้องๆ สถานสงเคราะห์เด็กชาย บ้านบางละมุง ต่อยอดกิจกรรม CSR "แบ่งฝัน ปันรักกับนมไทย-เดนมาร์ค” ต่อเนื่องปีที่ 8 เพื่อรณรงค์เด็กไทยดื่มนมสดโคแท้ 100% เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีจากคุณค่าทางโภชนาการสูง

         นายชัยณรงค์ เปาอินทร์ รองผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) กล่าวว่า อ.ส.ค.มีความมุ่งมั่นในการดำเนินนโยบายการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Corporate Social Responsibility : CSR) มาอย่างต่อเนื่อง จึงได้จัดกิจกรรมภายใต้ชื่อโครงการ"แบ่งฝัน ปันรักกับนมไทย-เดนมาร์ค 2024 ครั้งที่ 8 ขึ้นเพื่อแบ่งปันความสุขและเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับเด็กๆ ณ สถานสงเคราะห์เด็กชาย บ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรี ภายใต้แคมเปญการรณรงค์เด็กไทยดื่มนมโคสดแท้100% ไม่ผสมนมผงเพื่อรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับคุณค่าทางโภชนาการของนมโคสดแท้ ไม่ผสมนมผงและต้องการมอบสุขภาพที่ดีให้กับเยาวชนไทย โดยได้เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2560 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2567 โดยจัดโครงการนำร่องที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือโรงพยาบาลเด็กเป็นแห่งแรก สำหรับปี 2567 นี้อ.ส.ค.ได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งต่อรอยยิ้มให้กับน้องๆ สถานสงเคราะห์เด็กชาย บ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยบริจาคผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที. ตราไทย-เดนมาร์ค พร้อมจัดกิจกรรมสันทนาการและเลี้ยงอาหารเย็นแก่น้องๆ ซึ่งปัจจุบันมีเด็กชายอายุระหว่าง 7-18 ปี อยู่ภายใต้อุปภาระจำนวน 111 คน

 

         สำหรับการจัดกิจกรรม "แบ่งฝัน ปันรักกับนมไทย-เดนมาร์ค ประจำปี 2567 นี้ถือเป็นปีพิเศษเนื่องจากเป็นการร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาส “วันดื่มนมโลก” หรือ World Milk Day 2024 ซึ่งมีขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน 2567 นี้อีกด้วย โดยปีนี้กรมปศุสัตว์เป็นเจ้าภาพจัดงานภายใต้แนวคิด“สร้างความสุข เสริมภูมิคุ้มกัน ดื่มนมทุกวัน ดื่มได้ทุกวัย บริโภคนมได้หลากหลายเมนู” หรือ Enjoy Dairy เพื่อรณรงค์การบริโภคนมในสังคมไทย มุ่งสร้างความเข้าใจและการรับรู้ในวงกว้าง อีกทั้งเป็นการช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทย ให้มีความมั่นคงด้านอาชีพการเลี้ยงโคนมเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของนโยบายคณะกรรม การโคนมและผลิตภัณฑ์นม ในการส่งเสริมการบริโภคนมของคนไทยให้เพิ่มขึ้นจาก 18 ลิตร ต่อคนต่อปี เป็น 25 ลิตร ต่อคนต่อปี ภายในปี 2570

        นายชัยณรงค์ กล่าวต่อด้วยว่า ปัจจุบัน อ.ส.ค. ได้ให้ความสำคัญในรณรงค์ส่งเสริมให้เด็กไทยหันมาบริโภคนมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กไทยได้รับสารอาหารที่เพียงพอและได้ดื่มนมที่มีคุณภาพ นำไปสู่พัฒนาการที่แข็งแรงสมวัยช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรค จึงมีนโยบายในการสานต่อโครงการ "แบ่งฝันปันรักกับนมไทย-เดนมาร์ค”ต่อเนื่องทุกปี โครงการดังกล่าวนับเป็นการต่อยอดกลยุทธ์ทางด้านการตลาดที่สำคัญของอ.ส.ค.ที่ต้องการรณรงค์ให้ผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัยเห็นประโยชน์และหันมาดื่มนมสดโค 100% อย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งประโยชน์ของการดื่มนมโคสดแท้ 100% คือมีการผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ยังคงคุณค่าทางโภชนาการไม่มีการเติมแต่ง สารสังเคราะห์ใดๆ ยกเว้นการเติมสารอาหารหรือแต่งกลิ่นและสีโดยผ่านกระบวนการความร้อนตามมาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยในน้ำนมมีสารอาหารครบ 5 หมู่ จึงช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกายทำให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคแก่ทุกเพศทุกวัย โดยปัจจุบันคนไทยยังดื่มนมน้อยมากต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากล ซึ่งตามสัดส่วนแล้ว เด็ก (อายุ 1-12 ปี) ควรดื่มนม 3 แก้วต่อวัน แต่ถ้าเป็นวัยหนุ่มสาว (13-25 ปี) ควรดื่มนมวันละ 3-4 แก้ว ส่วนผู้ใหญ่ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวัยละ 2 แก้ว หรือโดยเฉลี่ยแล้วทุกคนควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวันละ 2 แก้ว แต่สำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรดื่มนมไม่น้อยกว่าวันละ 3 แก้ว ที่สำคัญการดื่มนมไม่ได้ทำให้อ้วนอย่างที่หลายๆคนเข้าใจเนื่องจากมีไขมันเพียง 3.8% ซึ่งถือว่าน้อยมากหากเทียบกับอาหารชนิดอื่นๆ หรือหากใครกังวลเรื่องความอ้วนก็สามารถดื่มนมพร่องมันเนยหรือนมไม่มีไขมันที่มีแคลเซียมสูงๆแทนได้

ปริญญา/ข่าว/ภาพ

Visitors: 213,707